เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
นครพนม-ยึดได้อีก ยาบ้าริมโขงกว่า 142,000 เม็ด หลังนรข.นครพนม สนธิกำลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจยึดได้จากกลุ่มคนต้องสงสัย ขนถ่ายขึ้นจากเรือพื้นที่ อ.ท่าอุเทน พบเป็นยาบ้าล็อตใหญ่ ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์หลบหนีไปได้
วันนี้ (22 ม.ค.) ที่สโมสรทหารสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม พลเรือตรีสมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง พร้อมด้วยผู้แทนจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, ฝ่ายปกครอง, พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม ร่วมแถลงข่าวตรวจยึดยาบ้าริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณพื้นที่ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จำนวนกว่า 142,000 เม็ด
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ ว่ามีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในราชอาณาจักรริมฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณบ้านยางนกเหาะ หมู่ที่ 2 ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
พลเรือตรีสมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จึงได้สั่งการให้นาวาเอกกษิดิ กลิ่นศรีสุข ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม พร้อมด้วยนาวาโทวรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม นรข.เขตนครพนม เข้าตรวจสอบพร้อมจัดชุดลาดตระเวนทางบกเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่
กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. ชุดลาดตระเวนทางบกได้ตรวจการด้วยกล้องส่องกลางคืนตรวจสอบ กระทั่งเวลา 22.30 น. ตรวจพบเรือกลีบเพลายาว แล่นมากลางแม่น้ำโขงทางทิศเหนือ แล้วดับเครื่องยนต์พายเรือมุ่งหน้าเข้ามาจอดฝั่งไทย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านยางนกเหาะ หมู่ที่ 2 ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ห่างจากชุดลาดตระเวนทางบกประมาณ 100 เมตร
ชุดลาดตระเวนทางบกจึงเข้าตรวจสอบพบกลุ่มบุคคล 2 คน กำลังแบกวัตถุต้องสงสัย เวลาประมาณ 22.45 น. ชุดลาดตระเวน จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบ กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทิ้งกระสอบวัตถุต้องสงสัยและได้วิ่งหนีหลบไป อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนี พบกระสอบต้องสงสัยจำนวน 2 กระสอบ และเรือกลีบเพลายาว จำนวน 1 ลำ
การตรวจสอบเบื้องต้นภายในกระสอบ พบบรรจุยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จึงนำมาตรวจสอบโดยละเอียดที่สถานีเรือนครพนม จากการตรวจสอบโดยละเอียดพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 142,000 เม็ด จึงได้บันทึกข้อมูลตรวจยึดเป็นหลักฐานพร้อมทั้งนำของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าอุเทน พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป