ญาคูหา อโสโก พระเกจินักพัฒนา – พระครูสุวรรณสารวิจิตร หรือ ญาคูหา อโสโก พระเถระชั้นผู้ใหญ่วัดสระพังทอง บ้านหนองย่างชิ้น หมู่ 8 ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม และอดีตเจ้าคณะตำบลหนองย่างชิ้น ที่ชาวชนเผ่าผู้ไทยเรณูนคร และจังหวัดใกล้เคียงเคารพเลื่อมใสศรัทธา
ปัจจุบันยังดำรงชีวิตอยู่ในวัย 71 ปี
ศิษย์สืบสายธรรมพระครูภาวนาภิรัตน์ หรือ หลวงปู่แพงตา เขมิโย พระเกจิชื่อดัง อ.ปลาปาก จ.นครพนม
มีนามเดิมว่า นายหา โพธิ์ชัย เกิดวันที่ 1 ม.ค.2493 ปีขาล พื้นเพเป็นชาวบ้านดงมะเอก ต.โพนทอง อ.เรณูนคร บิดา-มารดาชื่อ นายไล โพธิ์ชัยและนางบุญมาย ยศสุรีย์เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวนพี่น้องร่วมอุทร 4 คน
หลังจบชั้น ป.4 ใฝ่รู้ร่ำเรียน กศน.จนจบชั้น ม.6 ที่โรงเรียนเรณูนครวิทยานุกูล
อายุครบ 20 ปี พ.ศ.2516 อุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดศรีบุญเรือง อ.เรณูนคร มีพระครูเขมคุณสุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังบวชได้แค่ 2 วันมีปัญหาหนักใจ ให้ครุ่นคิดจึงลาสิกขา
จึงบวชใหม่รอบ 2 ที่พัทธสีมาวัดบูรพาราม ต.โพนทอง มี เจ้าอธิการทองดำ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาธวัช ธัมมเตโช เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการพิทูล อัตถาโม เป็นพระ อนุสาวนาจารย์
กราบลาอุปัชฌาย์ ไปฝากตัวเป็นศิษย์เอกพระครูภาวนาภิรัตน์หรือ หลวงปู่แพงตา เขมิโย วัดประดู่วีระธรรม ต.กุดตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม พระเกจิชื่อดังรุ่นพี่ที่ไปมาหาสู่กับ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ โดยตลอด
หลังร่ำเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงปู่แพงตานาน 3 ปี ต่อมาจึงไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่คำสิงห์ สุภัทโท เทพเจ้าแห่งบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นญาติกับบุพการีได้ระยะหนึ่ง จึงร่ำลาไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงปู่ทองทิพย์ วัดบ้านฝายแตก อ.เมือง จ.หนองคาย
หลังธุดงค์ตระเวนร่ำเรียนวิชา จึงกลับมาช่วยงานปริวาสกรรมหลวงปู่แพงตา อยู่ช่วยงานท่านขจัดปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บชาวบ้านที่ตกทุกข์ได้ยากควบคู่ไปด้วย จนหลวงปู่แพงตา ผู้เป็นอาจารย์ได้ ละสังขาร เมื่อปี พ.ศ.2535 ก็อยู่ช่วยจนงานแล้วเสร็จ
หลังสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค ก็มาบุกเบิกพัฒนาวัดสระพังทอง ต.โพนทอง (ในขณะนั้น) จนพัฒนามีเสนาสนะเจริญรุ่งเรือง ในปัจจุบัน สร้างพระพุทธรูป 164 องค์แทนกำแพงแก้วรอบอุโบสถ ศาลาอเนกประสงค์ และสร้างเจดีย์ทรงระฆังคว่ำครอบหอระฆังสูง 23 เมตร
จึงตระเวนเดินสายพัฒนาสร้างวัด เพชรน้ำผึ้ง อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สร้างพระพุทธรูปเป็นกำแพงรอบโบสถ์ 174 องค์ จึงข้ามไปที่วัดบ้านมณีราช แขวง สะหวันนะเขต สร้างพระพุทธรูปดังกล่าวรอบโบสถ์อีก 108 องค์
เหตุที่ชอบตระเวนสร้างพระพุทธรูปรอบอุโบสถวัดหลายแห่ง ญาคูหาให้เหตุผลว่า บ่อยครั้งที่พบเห็นชาวบ้านไหว้กำแพงวัด จึงสร้างพระพุทธรูปให้ชาวบ้านกราบไหว้เสียเลย
ในช่วงปัจฉิมวัย ยังไปสร้างศาลาอเนกประสงค์ หอสวดมนต์ โรงครัว กุฏิ 12 หลัง สำนักสงฆ์หนองแดง บ.น้อยหนองพอก ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก ที่จำพรรษาหลวงปู่รัศมี ธัมมจาโร พระเกจิชื่อดังแห่ง อ.ปลาปาก
จึงวกกลับมาพัฒนาวัดมาตุภูมิสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรกสูง 9 เมตร ปากทางเข้าประตูวัดสระพังทอง และพระปางไสยาสน์ ยาว 36.14 เมตร กว้าง 4 เมตรสูง 7 เมตร แทนกำแพงหน้าวัด สิ้นงบ 1 ล้านบาท อยู่ระหว่างสร้างพญานาครอบฐาน เพื่อให้ชาวพุทธได้กราบไหว้
จะไม่ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบล หนองย่างชิ้น หรือแม้แต่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระพังทอง ด้วยเหตุผลส่วนตัวบางประการ
ปัจจุบันบางครั้งจะสลับไปจำพรรษาและพัฒนาสำนักสงฆ์อโศการาม บ้านเหล่ากกตาล ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร ซึ่งอยู่ห่างจากวัดสระพังทอง 4-5 กิโลเมตร
ด้านวัตถุมงคลที่คณะลูกศิษย์เลื่อมใสศรัทธา ได้จัดสร้างไปแล้ว 4-5 รุ่น แต่ละรุ่นล้วนนำปัจจัยไปถวายสมทบวัดสร้างอุโบสถ และศาลาการเปรียญวัดหลายแห่ง โดยเฉพาะรุ่น 1 รุ่นฉลองอุโบสถวัดนาเจริญ เป็นที่เสาะแสวงหาของนักสะสม ไปแล้ว
ชนะ วสุรักคะ