วันที่ 14 ก.พ. 2564 เวลา 16:49 น.
นครพนม-รองประธานสภาฯหนุนตั้งวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาเพื่อรักษาโรคจนสำเร็จเป็นแห่งแรกของจ.นครพนม ตั้งเป้าขยายพื้นที่ปลูกให้ความรู้ชุมชน ส่งเสริมเป็นอาชีพเกษตรทางเลือกเพื่อทำวิจัยรักษาโรค พบราคาสูงใบละ 10 บาท
เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่แปลงสาธิตปลูกกัญชาวิสาหกกิจ ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการผลักดันก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชาของ ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับการปลูกกัญชา เพื่อทำวิจัยในการรักษาโรคตามนโยบายของพรรคภูมิใจไทย และนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการทำเกษตรทางเลือกปลูกกัญชาสร้างรายได้ให้กับชุมชน ภายใต้การขออนุญาตตามกฎหมาย เนื่องจากยังเป็นยาเสพติดให้โทษที่ต้องควบคุม เบื้องต้นนำร่องเป็นแปลงสาธิตจำนวน 50 ต้นปลูกแบบปลอดสาร เพื่อจะได้ลงนามความร่วมมือกับทางหน่วยงานสาธารณสุขนำไปวิจัยด้านการทำยารักษาโรค ซึ่งจะใช้ช่อดอกไปทำการทำวิจัย ส่วนใบกัญชาจะได้ขออนุญาต นำไปปรุงประกอบอาหารเป็นเมนูเพื่อสุขภาพชนิดต่างๆ ส่วนการปลูกจะเป็นสายพันธุ์พื้นบ้านหางกระรอกภูพานใช้เวลาปลูกประมาณ 3-4 เดือน สามารถเก็บผลผลิตได้
นายศุภชัย เปิดเผยว่า แปลงปลูกกัญชาสาธิตของวิสาหกิจชุมชน ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม ถือเป็นแห่งแรกที่มีการผลักดันร่วมกับชุมชน เพื่อนำร่องในการปลูกกัญชาเพื่อทำวิจัยด้านการแพทย์ ภายใต้นโยบายของรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย ที่มีการผลักดันแก้กฎหมายให้สามารถปลูกกัญชาได้เพื่อการรักษาโรค ซึ่งปัจจุบันได้มีการแก้กฎหมายให้ สามารถใช้ใบกัญชาในการประกอบอาหารได้ แต่ต้องมาจากแหล่งปลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนช่อดอกกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ที่ผิดกฎหมายตามกฎหมายเดิมยังไม่สามารถปลดล็อกได้ นอกจากใบกัญชาสามารถนำไปปรุงอาหารได้ ส่วนช่อดอกจะต้องนำส่งไปทำวิจัยร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ในการสกัดเป็นยารักษาโรคต่อไป
อย่างไรก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจะได้เร่งหารือวางแนวทางเป็นทางเลือกให้ เกษตรกร รวมถึงประชาชน ได้ปลูกกัญชาเพื่อสร้างรายได้ รวมถึงใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ในการรักษาโรค เพราะทางการแพทย์สามารถวิจัยได้ว่า สามารถรักษาโรคบางชิดได้ อาทิ พาร์กินสัน โรคปลายประสาทอักเสพ โรคมะเร็งบางชนิด เคยมีการทดลองรักษาผู้ป่วยหายแล้วบางส่วน และอยู่ระหว่างการพัฒนาด้านการวิจัย
นายศุภชัย กล่าวว่า อนาคตประโยชน์สูงสุดนอกจากต้องการให้ประชาชนได้ประโยชน์จากการรักษาโรคแล้วยังเป็นเกษตรทางเลือกสร้างรายได้ในชุมชนที่มีการก่อตั้งวิสาหกิจชุมชน ให้สามารถปลูกได้ในครัวเรือน รวมถึง สร้างรายได้ในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน โดยจะนำพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ โมเดลมาเป็นต้นแบบ เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ และเกิดประโยชน์ก้านการรักษาโรคย่างแน่นอน ส่วนรูปแบบการขายจะมีการตั้งสหกรณ์ในการรับซื้อ และเชื่อมั่นว่าในอนาคต จ.นครพนม จะเป็นแหล่งผลิตกัญชา เพื่อการรักษาโรคที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะในอดีตมีการลักลอบปลูกจำนวนมาก แต่ผิดกฎหมาย และปัจจุบันเมื่อถูกกฎหมายจะต้องเกิดประโยชน์กับชุมชนมากที่สุด ซึ่งนโยบายปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้นได้ปลูกแน่นอน แต่ต้องรอขั้นตอนให้ถูกต้องตามกฎหมาย