สยามรัฐออนไลน์
17 กุมภาพันธ์ 2564 10:15 น.
ภูมิภาค
ผบ.กองกำลังทหาร ชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่เชิงรุก กำชับเข้ม ชายแดนอีสาน นครพนม 4 อำเภอ เข้มสกัดยาเสพติด หลังพบทะลักล็อตใหญ่บ่อยครั้ง มีเบาะแส ทะลักหนีจากชายแดนภาคเหนือ เข้าทางน้ำโขงอีสานช่วงโควิด พบมีกลุ่มการเมืองท้องถิ่นบางราย เอี่ยวในขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ สั่งจับตาพิเศษ อ.ท่าอุเทน พื้นที่สีแดง รุกปิดล้อมพื้นที่ 10 หมู่บ้าน เป้าหมาย พบสถิติรอบ 3 เดือน ยึดยาบ้า นับ 10 ล้านเม็ด กัญชากว่า 5 ตัน
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ฐานปฏิบัติการ บก.คุมคุมที่ 1 ศูนย์ปราบปรามยาเสพติด ชายแดนอีสานตอนบน กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี วัดป่าบ้านน้อยลวงมอง หมู่ 8 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 2 ส่วนแยก 1 พร้อมคณะ ลงพื้นที่ ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ ติดตามการปฏิบัติหน้าที่ของ ชุดเฉพาะกิจกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลุงสุรศักดิ์มนตรี และกองกำลังกรมทหารราบที่ 3 เกี่ยวกับการดูแลความมั่นคงในพื้นที่ ชายแดน รวม 4 อำเภอ มี อ.บ้านแพง อ.ท่าอุเทน อ.เมือง และ อ.ธาตุพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน สำคัญที่มีปัญหาการลักลอบนำเข้ายาเสพติด โดยเพาะพื้นที่ อ.ท่าอุเทน ถือเป็นพื้นที่สีแดง สำคัญ ที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ทั้งกัญชา ยาบ้า ยาไอซ์ และเฮโลอีน รวมถึง การโจรกรรม ส่งออกรถยนต์ข้ามชาติ ซึ่งมีการตรวจยึดบ่อยครั้ง
โดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการบรรยายสรุปผลงาน ความคืบหน้าของการทำงานเชิงรุก ทั้งการสร้างความร่วมมือกับชุมชนหมู่บ้านชายแดน สร้างแหล่งข่าวในการแจ้งเบาะแส รวมถึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามหาข่าว พบว่า มีพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย 10 หมู่บ้าน ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน ที่เป็นเส้นทางผ่านยาเสพติด นอกจากนี้ ยังพบว่า มีกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ รวม 4 กลุ่ม และมี นักการเมืองท้องถิ่น ผู้มีอิทธิพล รวมอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบติดตาม วางมาตรการสอบสวนสืบสวน ร่วมกับหน่วยงาน ตำรวจทหาร ฝ่ายปกครอง ติดตามดำเนินคดี อีกทั้งยังลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติดบ่อยครั้ง เพื่อหาทางป้องกันแก้ไข ส่วนสถิติการจับกุมในพื้นที่ พบว่า ในรอบ 2 -3 เดือนที่ผ่านมา พื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มีสถิติการจับกุมกวาดล้างยาเสพติดในช่วง ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 31 มกราคม 2564 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ 1,069 คน รวม 1,050 คดี ตรวจยึดของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 7,415,742 เม็ด กัญชากว่า 3,000 กิโลกรัม ยาไอช์กว่า 2,324 กรัมและเฮโรอีนกว่า 257 กิโลกรัม
พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 2 ส่วนแยก 1 เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า ช่วงนี้ พื้นที่ชายแดนอีสานแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึง จ.นครพนม เป็นพื้นที่สีแดง สำคัญ ที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะมีการขนล็อตใหญ่ เนื่องจากมีการลักลอบหนีมาจากพื้นที่ภาคเหนือ ในช่วงควบคุมโควิด หันมาเข้าทางน้ำโขง เพราะมีพื้นที่ลักลอบตามน่านน้ำหลายจุดยากในการตรวจสอบ จึงต้องมาดูแลให้กำลังใจตรวจเยี่ยม กำชับกำลังพล ให้มีการดูแลเข้มงวดมากขึ้น โยจะเน้นให้สร้างความสัมพันธ์กับชาวบ้านในพื้นที่ ลดความขัดแย้ง และสร้างความร่วมมือให้ ชาวบ้าน ผู้นำชุมชนท้องถิ่นมาเป็นแนวร่วมในการแจ้งเบาะแส นอกจากนี้ให้มีการตรวจสอบติดตาม หมู่บ้านเป้าหมายเชิงรุก แต่ไม่ได้หมายความว่า เป็นหมู่บ้านที่ค้าทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านที่เป็นเส้นทางผ่าน พักยาเสพติด จึงต้องมีการติดตามหาข่าวต่อเนื่อง นอกจากนี้ในส่วนของกลุ่มผู้ค้า ผู้เสพจะต้องมีการติดตาม หากพบหลักฐานชัดเจน ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเป้าหมายรายใหญ่ รายย่อย จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด ฝากประชาชน ช่วยสอดส่อง เป็นหูเป็นตา พบเบาะแส ยาเสพติด แจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ขอให้เชื่อมั่นการทำงาน โดยทางหน่วยงานทหาร จะเพิ่มมาตรการดูแลเข้มงวดให้มากที่สุด และปราบปราบเชิงรุกร่วมกับทุกหน่วยงานด้านความมั่นคง รวมถึง สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนในพื้นที่ ตัดวงจรการค้าให้มากที่สุด