นครพนม-เหิมหนัก! โจรบุกงัดทำลายตู้เอทีเอ็ม 2 จุดในจ.นครพนม คาดฝีมือแก๊งวัยรุ่นเสพยา ทุบตู้หวังเอาเงิน ตำรวจเร่งสืบสวนตามหลักฐานจากวงจรปิด พบบัตรเอทีเอ็มติดค้างในเครื่อง เร่งประสานข้อมูลเรียกตัวเจ้าของบัตรมาสอบเชิงลึก
วันนี้ (6มี.ค.) ความคืบหน้า กรณีแก๊งโจรแสบบุกใช้เครื่องมืองัดทุบทำลายตู้เอทีเอ็ม เพื่อหวังเอาเงินรวม 2 จุด ได้รับความเสียหาย โดยจุดแรก เหตุเกิดเมื่อเวลา ตี 4 ของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ตั้งอยู่หน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 1 ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบตู้ถูกงัดทำลายเสียหาย แต่คนร้ายไม่ได้เงินสดไป
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตู้เอทีเอ็ม พบชายผู้ก่อเหตุ สวมเสื้อแขนยาว มีหมวกโม่งปิดบังใบหน้า ใช้เหล็กชะแลงงัดตู้ด้านหน้า ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แต่ไม่สามารถงัดเข้าไปบริเวณกล่องเก็บเงินสดได้ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เบื้องต้นพ.ต.อ.ณัชวิชญ์ ราชแก้ว ผกก.สภ.เมืองนครพนม ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม รวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
ส่วนจุดที่ 2 ห่างกันไม่กี่วัน เหตุเกิดเมื่อเวลา ตี 1 ของวันที่ 5 มีนาคม 2564 คนร้ายได้ทุบทำลายตู้เอทีเอ็มธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ที่หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม คนร้ายทุบด้านหน้าพังเสียหาย แต่ไม่สามารถเอาเงินสดออกไปได้ ภายหลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.พุฒิพงศ์ อุตระศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ประสานชุดสืบสวนกองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบ นอกจากนี้ยังพบหลักฐานบัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทยติดอยู่ในช่องเสียบบัตร อยู่ระหว่างประสานข้อมูลกล้องวงจรปิด รวมถึงข้อมูลเจ้าของบัตรมาสอบสวน ตามหาคนร้ายมาดำเนินคดี
จากการตรวจสอบข้อมูลเบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจ เชื่อว่าลักษณะการก่อเหตุทั้ง 2 จุด สันนิษฐานว่าไม่ใช่แก๊งคนร้ายมืออาชีพ เพราะลักษณะการทุบทำลาย ไม่สามารถนำเงินออกจากกล่องเก็บเงินสดไปได้ ทุบทำลายจากตู้ด้านหน้า โอกาสจะนำเงินสดออกไปได้ยาก เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายแก๊งวัยรุ่นเสพยา หรือเมาคึกคะนองก่อเหตุ หวังนำเงินไปใช้จ่าย อย่างไรก็ตามตำรวจจะเร่งสืบสวน ตรวจหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามคนร้ายมาดำเนินคดี และเพิ่มมาตรการไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
ด้านนายวัฒนา นิลสาขา ปลัดเทศบาลตำบลเวินพระบาท ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลเวินพระบาท เปิดเผยว่าตู้เอทีเอ็ม ทางธ.ก.ส. ได้ขอใช้พื้นที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ใช้บริการมาประมาณ 1 ปี ส่วนการดูแลความปลอดภัย ทางธนาคารติดตั้งกล้องวงจรปิด รวมถึงมีระบบตู้เซฟภายในอยู่แล้ว เชื่อว่าคนร้ายอาศัยจังหวะช่วงดึกที่เวรยามหลับ และไม่มีคนพลุกพล่านก่อเหตุ ตรวจสอบข้อมูลไม่ได้เงินสดไป แต่ตู้เอทีเอ็มพังเสียหาย จึงประสานตำรวจ สภ.ท่าอุเทน มาตรวจสอบ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และทางเทศบาลจะได้ วางมาตรการดูแลป้องกันช่วยทางเจ้าหน้าที่ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก