9 มี.ค.64 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูโสภณรัตนากร เจ้าคณะตำบลนาทราย อายุ 55 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนแก้ว บ้านโพนงาม หมู่ 3 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ได้มอบหมายให้นายจำนง อ่อนพินา กำนันฯ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สัจจานันท์ บางทราย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐานภายในวัด พร้อมนำภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ไปสืบสวนสอบสวนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ได้มีโจรใจบาป เข้ามาลักขโมยเงินบริจาค ที่ญาติโยมมาทำบุญสร้างอุโบสถ และเก็บรักษาไว้บนศาลาการเปรียญของวัด คาดว่าหายไปประมาณ 1,000 บาทมีทั้งธนบัตรใบละ 20 , 100 บาท เสียบไว้บนต้นเงินผ้าป่าจากศรัทธาชาวบ้านมาร่วมทำบุญพัฒนาวัด เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บหลักฐาน
โดยจากการตรวจสอบในภาพวงจรปิดมีคนร้ายเป็นชายสูงโปร่งประมาณ 150-160 เซนติเมตร สวมเสื้อแขนยาวมีหมวกปกคลุมใบหน้า สวมถุงมือ ถุงเท้า ป้องกันลายนิ้วมือแฝงเป็นอย่างดี เข้าไปลักขโมยเงินและปีนศาลาการเปรียญหลบหนีออกไปทางด้านหลังวัด ซึ่งทางพระเจ้าอาวาสเชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่ และรู้ทิศทางการหลบหนี และความเคลื่อนไหวของวัด ซึ่งตำรวจกำลังเร่งสืบสวนติดตามแกะรอยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ พระครูโสภณรัตนากร เจ้าอาวาสเปิดเผยว่าจากข้อมูลกล้องวงจรปิด คนร้ายเข้ามาก่อเหตุเวลา 22.15 น. ของวันที่ 7 มีนาคม 2564 และมั่นใจว่าเป็นคนในพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ช่วงทำบุญผ้าป่าสมทบทุนสร้างอุโบสถ คนร้ายคาดว่ามีลักษณะเดียวกัน เคยเข้ามางัดเงินในตู้บริจาครูปเณรน้อย ที่ตั้งไว้ในศาลาหลังนี้ได้เงินไปกว่า 1,000 บาท ต่อมาครั้งที่ 2 เมื่อปีที่แล้วนี่เอง คนร้ายย่ามใจเข้ามายกตู้เงินบริจาคหนีไป ได้เงินบริจาคร่วม 2,000 บาท โดยนำตู้ไปโยนทิ้งน้ำที่ลำห้วยทางไป บ้านโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม แต่ไม่คิดจะเอาเรื่อง ถือว่าทำทานแก่สรรพสัตว์ผู้ยากไร้
กระทั่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 นำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งไว้ 3 ตัว เห็นคนร้ายชัดเจนมาก ก่อเหตุลักษณะเดียวกัน ส่วนครั้งนี้คงไม่ให้โอกาสแล้ว ถึงจะเป็นเงินไม่มาก แต่สำคัญคนร้ายจะเป็นภัยสังคม และอาจเป็นอันตรายต่ออาตมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ เพื่อให้เร่งสืบหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป