เรื่องเศร้าครั้งนี้ถูกเปิดเผย เมื่อวานนี้ 23 ต.ค. 2564 ร.ต.อ.ธรรมรัตน์ มะลาศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า จ.นครพนม รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านโนนไชยวาน หมู่ 3 ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนาหว้า ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครพนม และกู้ภัยศรีสัตตนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบภายในบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ บริเวณชั้นล่างพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายผู้ป่วยติดเตียงไม่สวมเสื้อผ้า ถูกแขวนคอกับเตียงด้วยเชือกไนล่อนสีแดง เสียชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ นายอนันทชัย อังคะมาตย์ อายุ 22 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์เมื่อประมาณ ก.ค. 2564 เป็นสาเหตุให้ป่วยอัมพาตท่อนล่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบหาสาเหตุ รวบรวมพยานหลักฐาน แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้ายในที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบพบศพผู้เป็นพ่อ ทราบชื่อคือ นายทองไสว อังคะมาตย์ อายุ 54 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในศาลาริมสระน้ำสาธารณะ ห่างจากจากบ้านพักประมาณ 200 เมตร พบสภาพศพใช้อาวุธมีดพร้าเชือดคอตัวเองจนสภาพคอเกือบขาดออกจากร่าง เลือดไหลนองทั่วพื้น ใกล้ที่เกิดเหตุยังพบมีดพร้าที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี
ภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทราบว่า สาเหตุของการเสียชีวิตเกิดจากผู้เป็นพ่อได้ก่อเหตุใช้เชือกไนล่อนฆ่ารัดคอลูกชายที่นอนป่วยติดเตียง เนื่องจากเกิดอาการเครียดจากปัญหาภาระหนี้สินและค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกชายที่ป่วยมานานนับครึ่งปี หลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ เชื่อว่าทำให้ผู้เป็นพ่อเครียดเกิดอารมณ์ชั่ววูบหวังตัดภาระ และคิดสั้นฆ่าตัวตายตามหนีปัญหาไปพร้อมกับลูกชาย โดยทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต เชื่อว่าพ่อเป็นคนก่อเหตุ
จากการสอบถาม นางสังวร อัรรคบาล อายุ 50 ปี ภรรยาผู้ตาย กล่าวว่า ตนอยู่กินกับสามีมานานกว่า 30 ปี มีลูกทั้งหมด 3 คน ลูกชายคนโตอายุ 28 ปี ส่วนลูกชายคนที่ 2 คือคนที่เสียชีวิต อายุ 22 ปี และมีลูกสาวคนสุดท้อง อายุ 10 ขวบ มีอาชีพรับจ้างทำไร่ทำนา ส่วนลูกชายทั้ง 2 คนทำงานรับจ้างต่างจังหวัด จนกระทั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2564 ลูกชายคนที่ 2 ที่เสียชีวิต ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ป่วยติดเตียง อัมพาตท่อนล่าง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีพ่อแม่คอยดูแลช่วยเหลือ โดยนำกลับมาดูแลที่บ้านพัก สุดท้ายไม่คิดว่าสามีจะคิดสั้นและก่อเหตุเช่นนี้
ปกติสามีเป็นคนรักครอบครัว รักลูกมาก ปกติไม่ดื่มสุรา และเป็นคนใจเย็นสุขุม ไม่เคยมีปัญหาในครอบครัว แต่จะมีแต่ปัญหาที่เครียดเรื่องภาระหนี้สินที่หยิบยืมมาจากญาติพี่น้อง รวมถึงเป็นหนี้ธนาคารประมาณแสนบาท แต่ยังพอให้คืนได้ ไม่คิดว่าจะใช้วิธีการแบบนี้แก้ปัญหา ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้า 8 โมงยังพูดคุยกันปกติ และดูแลลูกชายป้อนข้าวป้อนน้ำ จากนั้นตนจึงออกไปนากับลูกสาว ให้อยู่บ้าน 2 คน จนกระทั่งมีคนไปแจ้งข่าวว่า ลูกชายเสียชีวิตในสภาพถูกแขวนคอ ไม่คิดว่าพ่อจะเป็นคนลงมือทำ สุดท้ายไปเจอศพสามีปาดคอตัวเองเสียชีวิต แทบช็อกไม่คิดจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับครอบครัว ยังรับไม่ได้ เชื่อว่าคงตัดปัญหาไม่อยากให้ลูกเป็นภาระครอบครัว จึงใช้วิธีแบบนี้หนีปัญหา
ด้าน นายพิทยาธร บุญหาญ อายุ 54 ปี ญาติผู้เสียชีวิตเล่าว่า ครอบครัวนี้ปกติจะไม่มีปัญหา รักกันดี ในครอบครัวไม่เคยทะเลาะกัน แต่ช่วงหลังมีปัญหาเครียดหลังลูกป่วยต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก รวมถึงภาระหนี้สินที่ต้องใช้จ่าย ไปหยิบยืมมาจากญาติพี่น้อง รวมถึงหนี้สินทางธนาคาร แต่ไม่มีหนี้นอกระบบที่เป็นปัญหาหนัก ทั้งนี้ตนไม่คิดว่าคนเป็นพ่อที่รู้จักกันดีในฐานะญาติจะก่อเหตุลักษณะนี้หดหู่ใจมาก จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุเชื่อว่าเป็นคนลงมือใช้เชือกรัดคอลูกชายแขวนกับเตียงผู้ป่วยจนเสียชีวิต ก่อนเดินไปที่ศาลาริมสระน้ำสาธารณะพยายามใช้มีดพร้าปาดคอตัวเองตายตาม คิดว่าคงจะหาทางออกเพื่อหนีปัญหา คงคิดว่าเมื่อตายไปจะช่วยให้ลูกเมียที่อยู่หมดภาระ ซึ่งตนไม่คิดว่าจะหาทางออกแบบนี้ สงสารครอบครัว สงสารภรรยากับลูกที่ยังอยู่ สภาพจิตใจย่ำแย่ อย่างไรก็ตามตนคิดว่าเป็นอารมณ์ชั่ววูบที่เกิดจากความเครียด.