ภูมิภาค
เกษตรกรสวนมันแกวยิ้มราคาพุ่งรับเทศกาลนมัสการพระธาตุพนม
วันศุกร์ ที่ 04 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 19.21 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมด้วย นายสุพจน์ ผิวดำ ปลัดอาวุโสฯ นางสศิมา สุภาษร เกษตรอำเภอธาตุพนม นายภิศักดิ์สัน เสโนฤทธิ์ ที่ปรึกษาเทศบาลตำบลน้ำก่ำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม เพื่อรับทราบปัญหาจากกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนมันแกวหวาน(มันเพาหวาน) บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม เพื่อสร้างความมั่นใจด้านการตลาด ซึ่งมันแกวกำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลเร่งเก็บผลผลิต
ทั้งนี้ มันแกวหรือมันเพาหวาน เป็นผลไม้ประจำถิ่นชนิดหนึ่งที่ขึ้นชื่อ ถือเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกปีละเกือบ 10 ล้านบาท อีกทั้งยังเป็นของฝากในเทศกาลบุญเดือน 3 ช่วงงานนมัสการองค์พระธาตุพนมของทุกๆปี พ่อค้าแม่ค้าจะนำมาขายให้แก่นักแสวงบุญ นักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมาก และเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่เมื่อใดพบเห็นมันแกวออกวางจำหน่าย นั่นแสดงว่าใกล้ถึงบุญเดือน 3 งานนมัสการองค์พระธาตุพนมแล้ว
โดยเกษตรกรจะพื้นที่บริเวณริมแม่น้ำโขงในห้วงน้ำลดปลูกปีละหลาย 100 ไร่ เริ่มลงมือตั้งแต่เดือนตุลาคม และสามารถเก็บผลผลิตในช่วงต้นปีไปจนถึงเดือนพฤษภาคม สำหรับปีนี้เกษตรกรผู้ปลูกมันแกวยิ้มกันถ้วนหน้า เพราะราคาขายหน้าสวนอยู่ที่หมื่นละ 80-100 บาท(1 หมื่น=12 กิโลกรัม) นำไปขายย่อยหมื่นละ 120 บาท จากราคาหน้าสวนดังกล่าวเกษตรกรถือว่าอยู่ได้ไม่ขาดทุน แต่ราคาจะต้องไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 5-6 บาท จึงทำให้ช่วงนี้เกษตรกรบางรายสามารถสร้างรายได้เดือนหนึ่งเกือบ 1 แสนบาท
นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่าจากการลงพื้นที่ร่วมกับเกษตรอำเภอ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พบว่าตั้งแต่เทศกาลปีใหม่เป็นต้นมา เกษตรกรเร่งเก็บผลลิตมันแกวหวานส่งตลาดกันจ้าละหวั่น ยิ่งใกล้งานนมัสการองค์พระธาตุพนม ระหว่างวันที่ 9 -17 กุมภาพันธ์ ต้องเร่งเก็บผลผลิตส่งขายให้ทันกับงานเทศกาลดังกล่าว โดยปีนี้ถือว่าราคาอยู่ในระดับดี เกษตรกรไม่ขาดทุนเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาดรุนแรง ทำให้มีการล็อกดาวน์ประเทศไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ถึงแม้ปีนี้การจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนมแต่เน้นจัดงานแบบเรียบง่าย ยึดประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นหลัก และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด แต่เชื่อว่าจะยังมีประชาชน นักท่องเที่ยว เข้ามาในพื้นที่เพื่อร่วมงานเป็นระยะๆในช่วง 9 วันของงานนมัสการองค์พระธาตุพนม และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า เชื่อมั่นว่ามันแกวปีนี้ไม่มีตกค้างเน่าเสียคาสวน จึงสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี ทั้งนี้ทั้งนั้นทางอำเภอจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบรับทราบปัญหาพร้อมให้คำแนะนำด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องเข่นกัน
ด้าน นางสศิมา สุภาษร เกษตรอำเภอธาตุพนม กล่าวสมทบว่าเกี่ยวกับการตลาดมันแกวหวานในพื้นที่ อ.ธาตุพนม ปีนี้ยังขายได้ราคาดี เกษตรกรไม่ขาดทุน เพราะทางหน่วยงานเกษตรได้เข้ามาดูแลเรื่องการตลาดให้คำแนะนำต่อเนื่อง รวมถึงให้มีการรวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อแก้ปัญหาถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา ทำให้ปัจจุบันยังมีราคาอยู่ในระดับดีมีกำไร ถึงแม้ในช่วงนี้มีปริมาณออกลดลง แต่ยังสาสามารถขายได้ในราคาหมื่นละ 80-100 บาท อย่างไรก็ตามทางเกษตรอำเภอยืนยันว่าปีนี้มันแกวหวานจะไม่ได้รับผลกระทบเหมือนปีที่ผ่านมา และจะไม่มีผลผลิตตกค้าง โดยจะมีการลงพื้นที่ดูแลเรื่องการตลาดต่อเนื่อง ฝากประชาชนนักท่องเที่ยวช่วยกันอุดหนุน มันแกวหวานธาตุพนมการันตีความสด รสชาติกรอบหวานอร่อย
ในประเทศไทยมีมันแกวที่ปลูกกันมากจะมีอยู่ 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ พันธุ์หัวเล็ก และพันธุ์หัวใหญ่ ไม่มีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน แต่จะเรียกชื่อกันตามท้องถิ่นที่ปลูก เช่น มัวแกวลพบุรี มัวแกวเพชรบุรี มันแกวบ้านหมอ และมันแกวธาตุพนม ฯลฯ ซึ่งมีการปลูกมันแกวมานานมากแล้ว เบื้องต้นสันนิษฐานว่าชาวญวนเป็นผู้นำเข้ามาปลูกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) หรือมีคนไทยนำมันแกวเข้ามาจากประเทศเวียดนาม แล้วนำไปปลูกในพื้นที่ภาคอีสาน เพราะคนทางภาคนี้จะเรียกชาวญวนว่าแกว จึงเรียกมันชนิดนี้ว่ามันแกวก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันข้อสันนิษฐานดังกล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่