เผยแพร่:
ปรับปรุง:
นครพนม – วิสาหกิจแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 ลงนามขายลิ้นจี่ล่วงหน้าให้ไปรษณีย์ไทยและห้างแม็คโคร/ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต คาดเก็บผลได้นับแต่ปลาย มี.ค.-พ.ค.นี้ร่วม 1,400 ตัน เผยส่งวางขายตามสาขาในพื้นที่ภาคอีสาน ขณะที่ไปรษณีย์ไทยจะส่งตามออเดอร์ที่สั่งเข้ามาทั่วประเทศ
วันนี้ (11 มี.ค.) ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เป็นประธานการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจะซื้อจะขายลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1 หรือ นพ.1 ระหว่างตัวแทนวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ลิ้นจี่ นพ.1 กับไปรษณีย์ไทย สาขานครพนม ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขานครพนม และห้างสรรพสินค้าท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัดนครพนม (เซลส์แมนจังหวัดนครพนม) จัดขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อหาช่องทางการตลาดให้แก่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ในพื้นที่จังหวัดนครพนมที่มีการเพาะปลูกอยู่ประมาณ 2,548 ไร่ ให้มีช่องทางการจำหน่ายที่แน่นอน เป็นการสร้างความมั่นใจด้านการตลาด ภายใต้วิสัยทัศน์เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด และภายใต้ยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต โดยกำหนดเป้าหมาย 3 เพิ่ม คือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ เพิ่ม GDP ของประเทศ และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการทุกระดับ
นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ในปี 2564 นี้คาดว่าจะมีผลผลิตลิ้นจี่ นพ.1 ออกสู่ท้องตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประมาณ 1,400 ตัน เบื้องต้นทางไปรษณีย์ไทย สาขานครพนม จะรับซื้อจำนวน 100 ตัน โดยจะใช้รถปรับอุณหภูมิวิ่งส่งลิ้นจี่ในระยะทางไกล ส่วนระยะทางใกล้จะใช้รถที่ไม่มีเครื่องปรับอุณหภูมิวิ่งส่งเพื่อเป็นการป้องกันการเน่าเสียและคงคุณภาพของสินค้า
ขณะที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโคร สาขานครพนม จะรับซื้อจำนวน 300 ตัน และห้างสรรพสินค้าท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต จะรับซื้อไปเรื่อยๆ ในปริมาณที่ขายได้
โดยทางห้างมีนโยบายจะไม่กดราคาสินค้าของเกษตรกร แต่ขอให้เป็นราคาเดียวกันกับเกษตรกรขายให้กลุ่มอื่นๆ ส่วนเรื่องการจัดส่งจะมีการแจ้งล่วงหน้าด้วยปริมาณเท่าไหร่ โดยแบ่งการส่งเป็น 2 แบบ คือ ส่งตรงสาขาในภาคอีสาน และส่งไปที่ศูนย์กระจายสินค้า
ทั้งนี้ ในบันทึกข้อตกลงยังได้แบ่งเกรดลิ้นจี่ออกเป็น 3 ระดับ คือ เกรด A มีจำนวน 25-30 ผล/กิโลกรัม เกรด B มีจำนวน 31-35 ผล/กิโลกรัม และเกรด C มีจำนวน 36-40 ผล/กิโลกรัม ส่วนราคาซื้อ-ขายจะเป็นไปตามปริมาณและคุณภาพที่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน
นอกจากนี้ คณะทำงานด้านการตลาดระดับจังหวัดที่มีทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มาทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนการค้าและจัดหาช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรของจังหวัด ยังเตรียมหาช่องทางการตลาดเพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมทั้งในรูปแบบออนไลน์ ออฟไลน์ คอนแทรกต์ฟาร์มมิ่ง (การทำเกษตรพันธสัญญา) และเคาน์เตอร์เทรด (การสร้างเวทีการจับคู่ธุรกิจ) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลิ้นจี่ นพ.1
สำหรับลิ้นจี่ นพ.1 เป็นลิ้นจี่พันธุ์เบา และเป็นพืชเศรษฐกิจตัวแรกของจังหวัดนครพนมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2560 ด้วยลักษณะเด่นเฉพาะตัว คือ มีผลใหญ่ เนื้อแห้งไม่เละ มีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย และไม่มีรสฝาด ทำให้เป็นที่นิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลายของประชาชนทั่วไป