10 ธันวาคม 2564, 23:02น.
ครอบครัว’ซองทอง’ ได้โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก ‘ประยอม ซองทอง’ แจ้งว่า ประยอม ซองทอง ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 87 ปี เมื่อช่วงค่ำวันนี้ หลังจากล้มป่วยมาตั้งแต่ปี 2563
สำหรับ นายประยอม เกิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2577 ที่ตำบลท่าจำปา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จบการศึกษาชั้นต้นจากโรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จังหวัดนครพนมได้รับทุนศึกษาต่อที่โรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา และศึกษาต่อคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เริ่มงานเขียนเรื่องสั้นและกลอน ตั้งแต่สมัยเรียนที่โรงเรียนฝึกหัดครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เมื่อเรียนที่จุฬาฯ ได้รับการยอมรับในฐานะนักกลอนเอกของมหาวิทยาลัย เป็นสาราณียกรให้กับวารสารของคณะอักษรศาสตร์ และของสโมสรนิสิตจุฬา (ส.จ.ม.) จากนั้นได้กลับไปเป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จังหวัดนครพนม ก่อนที่จะเข้าทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย
นายประยอมนับเป็นบุคลากร ที่มีบทบาทสำคัญ ในการจัดตั้ง “สโมสรสยามวรรณศิลป์” เพื่อส่งเสริมงานด้านภาษา และวัฒนธรรมไทย ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย คนที่ 12 ได้รับพระราชทานโล่และเข็มประกาศเกียรติคุณ ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านอนุรักษ์ภาษาและวัฒนธรรมไทย จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2548 โดยมีบทกวีเป็นที่รู้จักเช่น ธารทอง
ฟ้าที่นี่แผ้วผ่องก่องประภาส ริ้วทองลาดแรรอบขอบคิ้วหาว
น้ำในธารสะท้อนแพรวดั่งแววดาว กระพริบพราวเพียงภาพทาบเปลวทอง
(บางตอนจากบทกวีธารทอง)
นอกจากนั้น ยังมีการตีพิมพ์บทกลอนอันเป็นที่รัก ‘สุดสงวน’ ซึ่งมีกลอนปกหลังที่ประทับด้วย
ยามยังโฉดเขลาเยาว์วัย
ฉันใคร่เป็นกวีมีชื่อเสียง
เฝ้าฝันปั้นถ้อยร้อยเรียง
เพื่อเพียงไพเราะเสนาะใจ
ครารุ่นครุ่นหมองมองโลก
พบโศกเศร้าสุขสดใส
เลือดฉีดแสงสีมีไฟ
กล้าไล้ความแรงแฝงคำ
#สิ้นศิลปินแห่งชาติ2548
#ประยอมซองทอง
CR:เพจ ประยอม ซองทอง /วิกีพีเดีย
ข่าวทั้งหมด