ภูมิภาค
ฉุดไม่อยู่! วีระกรรมป้าตัวตึงนครพนม ขับกระบะบุกโรงพักเฉี่ยวรถราชการเสียหาย อึ้งเคยถอดรองเท้าจะตบนักข่าว
วันศุกร์ ที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 19.01 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
จากกรณี นางส่องหล้า (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ตัวแทนบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ซึ่งเพิ่งถูกนิติกรเทศบาลเมืองนครพนม เข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อกล่าวหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ในอาคารท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว ที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองฯ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และพฤติกรรมดังกล่าวของนางส่องหล้ากลายเป็นกระแสดราม่าอยู่ในโลกโซเซียลอยู่ในขณะนี้
ล่าสุด วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 14.00 น. นางส่องหล้าได้ขับรถยนต์กระบะ 4 ประตูเข้าไปยัง สภ.เมืองนครพนม ปรากฏว่าขณะที่เลี้ยวรถเข้าไปนั้นได้เฉี่ยวกันชนหน้าด้านขวารถกระบะของพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม (พฐ.ฯ) ได้รับความเสียหาย จากนั้นนางส่องหล้าได้จอดรถเดินลงมาบอกกับเจ้าหน้าที่ว่าค่าเสียหายเท่าไหร่คิดมา โดยอ้างตนเองมองไม่เห็นและเพิ่งกินยามาและก็เดินหนีไป ซึ่งรถกระบะของ พฐ.นครพนม เป็นรถของราชการ ทางผู้บังคับบัญชา พฐ.ฯจึงจำเป็นต้องแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อ ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อเชิญตัวนางส่องหล้ามาสอบถามรายละเอียดในเวลา 16.00 น.ของวันนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นายสุภวัฒน์ ทุมอาจ นิติกรสำนักงานเทศบาลเมืองนครพนม ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วิชิต วรรณพฤกษ์ รอง ผกก.สภ.เมืองนครพนม เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับนางส่องหล้า โดยได้ร้องทุกข์กล่าวหาว่า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 พ.ย.65 ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร ซึ่งเป็นเวลาทำการของท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม นางส่องหล้า ซึ่งมีสำนักงานตัวแทนบริษัทประกันชีวิตอยู่ฝั่งตรงข้าม ได้เข้ามาภายในที่ทำการท่าเทียบเรือเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมส่งเสียงดังเอะอะโวยวาย และยังกล่าวหาว่าท่าเทียบเรือมีสิ่งผิดกฎหมาย
นอกจากนี้นางส่องหล้าได้แสดงความเกรี้ยวกราด ทำลายบานประตูทางเข้าด้านข้างอาคารซึ่งเป็นสิ่งของทางราชการได้รับความเสียหาย และยังไม่หนำใจได้ยืนชี้หน้าด่ากราดผู้คนในบริเวณนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบว่าบานประตูได้รับความเสียหาย ภายนอกอาคารก็ถูกนางส่องหล้าใช้ปากกาเมจิกและสีสเปรย์ฉีดพ่นเป็นตัวหนังสือ จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางส่องหล้ให้ถึงที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบหญิงวัย 70 ปี ซึ่งมีร้านขายของอยู่ละแวกนั้น ได้กล่าวว่า นางส่องหล้าเคยมาด่าทอตน และยังระรานไปทั่วทุกร้าน ไม่เว้นแต่ร้านขายขนมถนนคนเดิน เขามาวางของขายทำมาหากิน ไม่ได้ทำอะไรผิดหรือเสียหาย ก็ไปด่าเขาแบบหยาบคาย “เกิดมาก็ไม่เคยเจอ เขาไม่ใช่คนบ้าหรือคนประสาท แต่เขาชอบหาเรื่อง ถามว่าถ้าคนประสาทกล้ากินของเสียของสกปรกได้หรือไม่ ผู้หญิงคนนี้เขาจะก่อเหตุแทบทุกวันด่าหมด ส่วนเขาจะเป็นประสาทหรือเป็นผู้ป่วยจิตเวชนั้นคงไม่ใช้แล้ว ป้าว่ามันอยากข่มเหงคนอื่น โดยเฉพาะคนลงเรือขนสิ่งของลงเรือมันไม่ให้ลง ถามคนอย่างนี้อยู่ได้เหรอ บ้านเมืองก็ไม่สงบ ส่วนเจ้าหน้าที่ก็กลัวก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไรไม่รู้ วันที่ก่อเหตุด่าทั้งวัน เมื่อวานนี้ก็ด่าเขาครึ่งวัน ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่เด็ดขาดไม่ได้อายเขา หากเจ้าหน้าที่ยังกลัวผู้หญิงคนนี้แปลว่าหมดแล้ว ออกข่าวไปทั่วโลกแล้วถึงเยอรมันไปถึงประเทศอังกฤษ ชาวต่างประเทศเขาเห็นคลิปเขาเห็นข่าวยังหัวเราะเลย ว่าทำมั้ยเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเอาผู้หญิงคนนี้ไม่อยู่”
สำหรับคดีบุกรุกทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ซึ่งในเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ซึ่งจะได้แจ้งข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และทำให้เสียทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ประมาณปี 2563 นางส่องหล้าเคยเป็นข่าวโด่งดังมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนั้นมีพฤติกรรมไม่ต่างจากปัจจุบัน โดยจะอ้างว่ารู้จักตำรวจทั้งระดับล่างและระดับบน มักเข้าไปสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับตำรวจในโรงพักเสมอ ก็ได้มีนักข่าวประจำจังหวัดเข้าไปติดตามบันทึกภาพ ก็เกือบถูกนางส่องหล้าถอดรองเท้าตบ โชคดีที่มีตำรวจเข้ามาห้ามไว้ และขึ้นไปส่งเสียงเอะอะโวยวายจนเจ้าหน้าที่แทบไม่เป็นอันทำงาน เมื่อมีคนถามว่าลูกหลานไม่ดูแลหรือไร ก็ได้รับคำตอบว่าพวกญาติตลอดจนลูกหลานขอร้องให้หยุดพฤติกรรมก้าวร้าวนี้ กลับถูกนางส่องหล้าด่ากระเจิงมาหมดแล้ว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่