ตัวตึงนครพนม “ป้าหัวร้อนเจ้าเก่า” บุกทำลายทรัพย์สินราชการ วีรกรรมอื้อสุดเอือมระอา

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

สืบเนื่องจากมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอลงในสื่อโซเซียล เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 กรณีมีมนุษย์ป้าหัวร้อนรายหนึ่ง วัย 74 ปี ซึ่งมีสำนักงานอยู่ริมถนนสุนทรวิจิตร เยื้องท่าเทียบเรือการท่องเที่ยว เทศบาลเมืองนครพนม เกิดอารมณ์หงุดหงิดบุกเข้าทำลายทรัพย์สินของทางราชการ พร้อมส่งเสียงโวยวายชี้หน้าด่ากราดผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น เจ้าหน้าที่จึงถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับมนุษย์ป้ารายนี้ พร้อมนำคลิปเผยแพร่ในสื่อโซเซียล ก็มีคนคอมเม้นต์ถึงวีรกรรมของป้าหัวร้อนกันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามข้อเท็จจริง บริเวณท่าเทียบเรือหรือชาวบ้านเรียกว่าท่าด่าน ซึ่งเป็นด่านเรือข้ามฟากแม่น้ำโขงระหว่างไทยและลาว ที่เพิ่งได้รับการอนุญาตให้ประชาชนสองฟากฝั่งแม่น้ำโขง ใช้สัญจรไปมาได้อย่างปกติ หลังประสบวิกฤตโควิดระบาดนานเกือบ 3 ปี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง

โดย นายสมาน สูตรสุวรรณ อายุ 60 ปี ลูกจ้างชั่วคราวประจำด่านท่าเรือแห่งนี้ ได้พาไปยังประตูที่อยู่ด้านข้างทางทิศเหนือของอาคาร ซึ่งเทศบาลเมืองนครพนมทำเป็นทางลาด เพื่อใช้สำหรับบริการผู้พิการ พบว่าบานทึบที่ถูกป้าหัวร้อนกระชากจนเสียหาย ถูกเปลี่ยนมาเป็นกระจกใส นอกจากนี้นายสมานยังพาไปดูด้านนอกอาคาร ซึ่งมีรอยเขียนด้วยปากกาเมจิ และสีสเปรย์พ่นด้วยข้อความต่างๆ ไม่เว้นแม้ที่เสาศาลาพักร้อน โดยนายสมานเล่าว่าบริเวณหลังศาลาพักร้อนนี้ แต่เดิมมีแม่ค้ามาเปิดขายอาหาร เครื่องดื่ม ก็อยู่ไม่ได้เพราะถูกป้าหัวร้อนออกมายืนชี้หน้าด่าทุกวัน อีกทั้งยังระรานพี่น้องฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สามล้อเครื่อง กรรมกรแบกหาม ไม่เว้นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ในอาคารท่าเรือข้ามฟาก ทุกคนจะถูกป้าหัวร้อนมายืนด่าเสมอ จึงเป็นที่เอือมระอาแก่ชาวจังหวัดนครพนม ที่ได้พบเห็นภาพเหตุการณ์ความก้าวร้าว ซึ่งอยากให้ญาติๆนำตัวไปตรวจหาความผิดปกด้านสมอง เพราะเที่ยวระรานผู้คนไปทั่ว อีกทั้งบริเวณอาคารท่าเทียบเรือ เป็นพื้นที่สากล ในแต่ละวันมีพี่น้องชาวไทยและลาว ข้ามฟากเรือโดยสารเป็นจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายเป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า หลังจากคลิปวีดีโอดังกล่าวเผยแพร่ออกไปในโลกโซเซียล นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม มอบหมายนิติกรเทศบาลฯ เข้าแจ้งความกล่าวโทษมนุษย์ป้ารายนี้แล้ว แต่ก็ยังไม่ทำให้ป้าหัวร้อนรายนี้สยบ ยังคงมีพฤติกรรมก้าวร้าวยืนด่าคนที่ผ่านไปมาอยู่ด้านหน้าสำนักงานของตน อย่างไม่หวั่นเกรงกฎหมาย

สำหรับมนุษย์ป้ารายนี้ มีวีรกรรมในเรื่องดังกล่าวมานานหลายปี โดยอ้างว่ากลุ่มคนงานส่งเสียงดัง แล้วลามปามด่ากราดพี่น้องประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น และยังไปสร้างความรำคาญให้กับหลายหน่วยงาน แม้ลูกหลานขอร้องห้ามปรามก็ถูกด่าตะเพิด ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งกับป้าหัวร้อนรายนี้

ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่