นครบาลจับกัญชา 2 คดี รวมกว่า 1.6 ตัน เช่าบ้านเปิดขายออนไลน์ อิมพอร์ตจากต่างประเทศ อีกกรณีถือโอกาสช่วงลอยกระทงรับจ้างขนจากนครพนม
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด บช.น. ทำการสืบสวนติดตามจับกุม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีผลการปฏิบัติดังนี้
คดีที่ 1 พล.ต.ต.สรเสริญ ใช้สถิตย์ ผบก.น.6 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก. สส.บก.น.6 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการจับกุมพ่อค้ากัญชาออนไลน์ขยายผลยึดกัญชาได้เกือบ 1 ตัน มูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท โดยเมื่อ 19 พฤศจิกายน กองกำกับการสืบสวน บก.น.6 ได้สืบสวนทราบว่ามีการซื้อขายกัญชาออนไลน์เป็นกลุ่มปิดบนแอพพลิเคชั่นไลน์ และสามารถใช้แอพพลิชั่นไลน์ในการพูดคุยติดต่อซื้อขาย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถขยายผลจับกุม นายนพรุจ สงวนนามสกุล อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 , นายวิเชษฐ์ สงวนนามสกุล อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 และนายปิยวัฒน์ สงวนนามสกุล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 ได้ที่ บริเวณหน้าประตูทางออกปั๊มน้ำมันเชลล์ หจก.มนเทียรรุ่งเรือง สาขา 4 ถ.พระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง บ้านเลขที่ 98/120 หมู่บ้านคิวดิสทริค ภายใน ซ. สุขสวัสดิ์ 76 และแจ้งข้อหา ” ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย “พร้อมด้วยของกลางเป็นกัญชาอัดแท่งจำนวน 922 ห่อ น้ำหนัก 922 กิโลกรัม , โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อซื้อขาย จำนวน 3 เครื่อง,สัญญาเช่าบ้าน และยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของผู้ต้องหา ตาม พรบ.มาตรการในการปราบปรามไปตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ดังนี้
กระบะ อีซูซุ ดีแมก สีขาว 1 คัน,เก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส สีเทา จำนวน 1 คัน จักรยานยนต์ ฮอนด้า พีซีเอ๊กซ์ สีแดง-ดำ และสีดำ อย่างละคันจำนวน 1 คัน
ผู้ต้องหาทั้งสามรายรับสารภาพว่าเช่าบ้านพักเลขที่ 98/120 หมู่บ้านคิว ดิสทริค ซ.สุขสวัสดิ์ 76 เพื่อสำหรับเก็บกัญชานำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านไว้จำหน่ายให้กับผู้คนที่สนใจ โดยมีนายวิเชษฐ์ เป็นผู้สั่งนำเข้ามา และนำมาจำหน่ายกันผ่านกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์ ในราคากิโลกรัมละ 3-4,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสามรายจะผลัดกันเป็นผู้นำสินค้าออกมาส่งตามสถานที่ต่างๆที่มีการตกลงกันภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและบริเวณใกล้เคียง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.2 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 เวลาประมาณ 06.30 น. และ 07:30 น. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณทางลงคู่ขนาน วงแหวนเลี่ยงเมืองสระบุรี หน้าสนามยิงปืนใหญ่ ค่ายอดิศร ต.ปากข้าวสาร อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ต่อเนื่อง บริเวณใต้ทางต่างระดับวังน้อย ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 4 ราย คือ นายโทนีลี อายุ 50 ปี นายเสมียน อายุ 53 ปี นายศรายุธ อายุ 25 ปี นายธารา อายุ 18 ปี พร้อมด้วยของกลาง กัญชาน้ำหนัก 655 กก. กระบะ เชฟโลเลต รุ่นโคโรลาโด สีขาว 1 คัน กระบะ อีซุซุ รุ่นดีแม๊กซ์ สีบอร์นเงิน จำนวน 1 คัน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ”
จากการสืบสวนขยายผลเรื่อยมาจนทราบว่ามี กลุ่มลำเลียงยาเสพติด จังหวัดอุทัยธานี มีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงยาเสพติด โดยใช้รถยนต์ร่วมขบวนการจำนวนหลายคัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ เชฟโลเลต รุ่นโคโรลาโด สีขาว, รถยนต์กระบะ อีซุซุ รุ่นดีแม๊กซ์ สีบอร์นเงิน โดยลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเขตติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นจะนำยาเสพติด ไปส่งให้ลูกค้าในเขตกรุงเทพมหานคร และ ส่งต่อไปทางภาคใต้ ซึ่งชุดจับกุมได้ติดตามดูพฤติการณ์เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 พ.ย.64 เวลาประมาณ 21:00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายโทนีลี กับพวก เคลื่อนไหวไปรับยาเสพติดบริเวณชายแดนไทย-ลาว โดยใช้ช่วงเทศกาลลอยกระทงทำการลักลอบขนกัญชา จึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณใกล้เคียงตลอดเส้นทาง จนพบรถยนต์ทั้ง 2 คัน จึงได้ติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งถึงที่บริเวณถนนเลี่ยงเมืองสระบุรี หน้าสนามยิงปืนใหญ่ ค่ายอดิศร ต.ปากข้าวสาร อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจค้น ผู้ขับขี่และรถยนต์กระบะ เชฟโลเลต รุ่นโคโรลาโด สีขาว ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลาง ตามรายการข้างต้น และ ได้ทำการติดตามจับกุม ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ที่มากับรถยนต์กระบะ อีซุซุ รุ่นดีแม๊กซ์ สีบอร์นเงิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นรถนำขบวนได้ที่บริเวณ ใต้ทางต่างระดับวังน้อย ต.ลำตาเสา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 19 พ.ย.64 เวลาประมาณ 06:30 น. และ 07:30 น. ตามลำดับ
เบื้องต้นจากการสืบสวนขยายผล พบว่า นายโทนีลี กับพวก ได้เคยขนยาเสพติดก่อนหน้านี้มาแล้วจำนวน 4-5 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งจะไม่เคยเห็นหน้าของผู้ว่าจ้าง และ ไม่ทราบว่าผู้ว่าจ้างจะให้ทำการขนยาเสพติดประเภทใด โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินสด ครั้งละประมาณ 100,000 บาท สำหรับรถที่ทำหน้าที่ขนยาเสพติด ส่วนรถนำ ที่มาร่วมขบวนจะได้ค่าจ้าง ครั้งละประมาณ 50,000 บาท เมื่อได้เงินค่าจ้างมาจะเฉลี่ยแบ่งในสัดส่วนเท่า ๆ กัน โดยรถที่ขนยาเสพติด และ รถนำ ผู้ว่าจ้างจะเป็นผู้จัดหามาให้ ( อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ) โดยผู้ต้องหา ได้ติดต่อกับ ผู้ว่าจ้างทางผ่านทางแอพพลิเคชันไลน์ โดยส่วนใหญ่จะไปรับยาเสพติด บริเวณแนวชายแดน จังหวัดนครพนม และ ทุกครั้งที่ไปรับยาเสพติดจะพบว่าถูกวางทิ้งไว้บริเวณข้างถนนตามที่ผู้ว่าจ้างนัดหมายไว้ และ ทางผู้ว่าจ้างจะติดต่อมาอีกครั้งว่าจะให้ไปส่งที่ใด จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไม่มีประวัติต้องโทษคดีอาญา และ จากการสอบถามผู้ต้องหาพบว่า กัญชาแท่งมีการซื้อ-ขาย ที่บริเวณแนวชายแดนประมาณห่อละ 2,000 บาท แต่ถ้าหากนำเข้ามาในไทยแล้ว จะสามารถนำไปขายต่อในราคาห่อละ ประมาณ 5,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก
Line @Matichon ได้ที่นี่