- Line
นครพนม – สอบคัดเลือก อส.เข้มหนัก ป้องกันแก๊งอิงสื่อสวาปาม ปีก่อนกินแซ่บฟาดรายละ 3 แสน
วันที่ 6 มีนาคม 2564 จังหวัดนครพนมได้ดำเนินการสอบคัดเลือกบุคคลทั่วไป เพื่อบรรจุเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ปฏิบัติภารกิจกองร้อยรักษาดินแดนจังหวัดนครพนม ที่ 1 (ร้อย อส.1) และกองร้อย อส.อำเภอ กองบังคับการรักษาดินแดนจังหวัดนครพนม จำนวน 6 กองร้อย รวม 16 อัตรา แยกเป็นชาย 13 หญิง 3 นาย โดยใช้สถานที่โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย เขตเทศบาลเมืองนครพนม เป็นสถานที่ทดสอบข้อเขียน ครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์สอบทั้งหมด 458 คน
นายบรรจง สร้อยชมภู ปลัดอำเภอฯ ผู้บังคับการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การสอบข้อเขียน ประจำปี 2564 ของกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดนครพนม เป็นที่เรียบร้อยดี มีการปฏิบัติตามขั้นตอนของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ไม่ว่าจะเป็นที่จอดรถ แผนผังการสอบ หรือการตั้งจุดคัดกรอง
สำหรับการสอบในวันนี้ ข้อสอบก็จะมีทั้งหมด 100 ข้อ คะแนนเต็ม 50 คะแนน ผู้สอบจะต้องผ่านการทดสอบ 25 คะแนนขึ้นไป จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบในภาคทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งในการทดสอบสมรรถภาพร่างกายจะมีคะแนนเต็ม 30 คะแนน แยกเป็นท่าวิ่ง 2 กิโลเมตร 14 คะแนน,ท่าดันพื้น 8 คะแนน,ท่าลุกนั่ง 8 คะแนน ซึ่งผู้สอบจะต้องผ่านการทดสอบทั้ง 3 สถานีเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการทดสอบในสถานีถัดไป และมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ โดยในกลางสัปดาห์หน้า จะมีการประกาศรายชื่อผู้สอบผ่านการทดสอบภาคความรู้สอบข้อเขียน ณ ที่ทำการปกครองจังหวัดนครพนม (กลุ่มงานความมั่นคง) จังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม หลังใหม่ (ชั้น3) และที่ว่าการอำเภอท้องที่ที่รับสมัครทุกแห่ง
ทั้งนี้ การสอบครั้งนี้ได้เลื่อนจากเดิมวันที่ 16 มกราคม เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเกิดระบาดของโรคระลอกใหม่ในหลายพื้นที่ในประเทศไทย จังหวัดนครพนมจำเป็นต้องเลื่อนภาคความรู้ สอบข้อเขียน มาเป็นวันที่ 6 มีนาคม 2564
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การสอบเป็น อส.ฯ ประจำปี 2563 ครั้งที่ผ่านมา ใช้การทดสอบสมรรถภาพความแข็งแรงทางร่างกายเพียงอย่างเดียว จึงมีกลุ่มผู้อ้างตนเป็นสื่อใหญ่ในจังหวัด ร่วมมือกับบุคคลที่มีความคุ้นเคยในกองร้อย อส.ฯ และส่งนายหน้าตระเวนสอบถามบุคคลใด ต้องการเป็น อส.บ้าง โดยคิดค่านายหน้ารายละ 300,000 บาท เมื่อมีผู้หลงเชื่อก็จะนำรายชื่อให้คนที่อ้างเป็นสื่อที่ชอบเดินตามหลัง หรือถ่ายรูปประกบผู้ใหญ่ ไปพบกับข้าราชการในที่ทำงานบนศาลากลางฯ โดยอ้างว่าขอฝากลูกหลานเข้าเป็น อส. จากนั้นแก๊งแอบอ้างเป็นสื่อก็จะนำเงินที่ได้มาแบ่งปันกัน