ศบสค.อส. ผวาบิ๊กขรก.ภาค 7 เสี่ยงโควิด หลังพบไทม์ไลน์บุคลากรอัยการพื้นที่ราชบุรีติดเชื้อ ร่วมงานประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารสำนักงานอัยการเขต 7-นครปฐม มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในงานหลายราย เร่งตามมาตรการป้องกัน
พุธที่ 17 มีนาคม 2564 เวลา 19.27 น.
เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเอกสารเผยเเพร่ข่าวสำนักงานอัยการสูงสุดตามที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) หรือ ศบค. จังหวัดราชบุรี รายงานตรวจพบบุคลากรของสำนักงานอัยการภาค 7 เป็นผู้ป่วยยืนยัน ติดเชื้อ เป็นหญิง รายที่ 42 จากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีความเกี่ยวข้องกับตลาดวันเดอร์ บางแค กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 37 ของราชบุรี ซึ่งเป็นพี่สาว และนอกจากนี้ยังมีสมาชิกในครอบครัว คือ ลูกสาว และสามี ติดเชื้อด้วย โดยสามี ซึ่งเป็นบุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุดที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดนครพนมได้กลับมาเยี่ยมบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาที่โรงพยาบาลราชบุรี และยังไม่ได้เดินทางกลับไปปฏิบัติราชการในพื้นที่จังหวัดนครพนม แต่อย่างใด
นายประสิทธิ์ ศิริภากรณ์ รองอัยการสูงสุด ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) สำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) ได้ประสานงานไปยัง นายเฉลิมพันธ์ ประทีปถิ่นทอง อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการภาค 7 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยอธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการภาค 7 แจ้งว่า ได้ประสานกับ ศบค.จังหวัดราชบุรี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดราชบุรี และผวจ.ราชบุรี เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนการป้องกันและควบคุมโรค พร้อมทั้งทำการตรวจสอบ Time Line ของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว และได้ให้บุคลากรในสำนักงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเข้าทำการตรวจหาเชื้อแล้ว พบว่ามีเจ้าหน้าที่ที่นั่งทำงานติดกัน ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนที่เหลือมีผลเป็นลบแต่ในจำนวนนี้ยังคงต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวังสังเกตอาการต่อไปอีก 14 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 1 คน ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบ Time Line แล้ว
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการภาค 7 ได้ประสานกับ ศบค.จังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าทำความสะอาดฆ่าเชื้อในอาคารสำนักงานอัยภาค 7 ทั้งหมด โดยเฉพาะบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้อ COVID–19 ทั้งสองรายดังกล่าว พร้อมทั้งเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) สำนักงานอัยการสูงสุด (ศบสค.อส.) เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID–19 ทั้งการตั้งจุดคัดกรองผู้มาติดต่อ การเว้นระยะห่าง การสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และการล้างมือ โดยจะจัดให้เจ้าหน้าที่บางส่วนปฏิบัติงานแบบ Work from Home ส่วนประชาชนที่มีความจำเป็นต้องติดต่อราชการขอให้ตรวจสอบเบื้องต้น ทางโทรศัพท์กับหน่วยงานก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยรายที่ 42 บุคลากรของสำนักงานอัยการสูงสุด ยังได้เดินทางไปร่วมงานที่นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด เป็นประธานฝ่ายฆราวาสประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ อาคารสำนักงานอัยการภาค 7 และอาคารสำนักงานอัยการจังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วย โดยในงานมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ รวมถึงข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรสำนักงานอัยการภาค 7 ในพื้นที่เข้าร่วมพิธีหลายคน
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
-
เห็นด้วย
0%
-
ไม่เห็นด้วย
0%