พช.นครพนมขับเคลื่อนศูนย์เรียนรู้พัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” พุธที่ 23 มิถุนายน 2564 เวลา 11.33 น.
ที่บ้านดงยอ หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายสุรพล แก้วอินธิ พัฒนาการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสาวพันสี คุณธรรม ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน และนักวิชาการพัฒนาชุมชน ลงพื้นที่ ติดตามผลการดำเนินงานศูนย์เรียนรู้พัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” โดยมี นายศักดิ์ชัย อามาตย์สมบัติ พัฒนาการอำเภอเมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่พัฒนาขุมชนอำเภอ ร่วมติดตามและให้ข้อมูล ณ แปลงนายประดิษฐ์ หนองอุดม หมู่ที่ 8 บ้านดงยอ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
นายประดิษฐ์ หนองอุดม เริ่มต้นจากการเป็นครัวเรือนที่เข้ารับการฝึกอบรมความรู้ ของหน่วยงานกรมการพัฒนาชุมชน ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 22-26 มกราคม 2563 เมื่อกลับมาจากการอบรมทำให้มีแนวคิดและพลังในการลงมือพลิกพื้นที่ของตนเอง ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ได้ลงมือปรับพื้นที่ปลูกสวนยาง มาทำเป็นโคก หนอง นา โมเดล และปลูกต้นไม้ 5 ระดับ สู้กับภัยแล้ง สร้างความมั่นคงในแหล่งทำกินด้านการเกษตร ปรับดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ให้หันกลับมาอุดมสมบูรณ์ โดยปรับปรุงพื้นที่ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ ห่มดิน ให้ดินเลี้ยงพืช มีพื้นที่สำหรับปลูกข้าว อีกส่วนหนึ่งสำหรับปลูกพืชไร่ พืชสวน มีหนองน้ำ ไว้รองรับน้ำฝนธรรมชาติ ตลอดจนมีการเลี้ยงสัตว์ ให้มีการเชื่อมโยงวงจรชีวิต พืช สัตว์ ร่วมกันได้
จากจุดเริ่มต้นของความแห้งแล้ง และไม่มีรายได้ ถึงปัจจุบันประมาณ 1 ปี เศษแล้วพื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้เป็นศูนย์เรียนรู้พัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” ของกรมการพัฒนาชุมชน เมื่อปี 2564 มีฐานการเรียนรู้หลายฐาน ได้แก่ ฐานคนรักป่า ฐานคนรักน้ำ ฐานคนเอาถ่าน ฐานคนรักแม่ธรณี และฐานคนมีน้ำยา ปัจจุบันครัวเรือนทำการปลูกพืช ผัก สวนครัว เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เลี้ยงหอยขม และเลี้ยงกุ้งฝอย ทำให้พออยู่ พอกิน พอใช้ จนเหลือแบ่งปัน ที่สำคัญมีรายได้จากการขายพืชผักและสัตว์ ดังนี้ รายได้จากการขายพืชผัก ได้แก่ ขายตะไคร้ วันละ 300 บาท ขายกล้วย เดือนละ 5,000 บาท ขายส้มโอ ปีละ 5,000 บาท ขายมะนาว เดือนละ 3,000 บาท ขายพริก เดือนละ 1,500 บาท รายได้จากการขายกุ้งฝอย เดือนละ 1,000 บาท ขายหอยขม เดือนละ 1,000 บาท ขายปลาหมอเทพ เดือนละ 5,000 บาท รวมจากการขายพืชผักและเลี้ยงสัตว์แล้วมีรายได้ประมาณ 26,000 บาท/เดือน ทำให้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง สถานที่แห่งนี้เป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งเพิ่มรายได้ของครัวเรือนได้เป็นอย่างดี “โคก หนอง นา ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด”.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
0%
- ไม่เห็นด้วย
0%