‘ศักดิ์สยาม’ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ท่าอากาศยานขอนแก่น จ.ขอนแก่น นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน และนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด ดร.ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประทศไทย จำกัด นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมลงพื้นที่ โดยมีนางสาวธนียา นัยพินิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้การต้อนรับ
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วยแก้ไขปัญหาการจราจร รองรับเชื่อมโยงการเดินทางกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนับสนุนการค้าการท่องเที่ยวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน กระทรวงมีความมุ่งมั่นในการดำเนินตามภารกิจดังกล่าว โดยได้เร่งรัดเปิดให้บริการโครงข่ายคมนาคม เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ส่งเสริมภาคเกษตรกรรม สนับสนุนการกระจายรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และสนับสนุนการค้าการท่องเที่ยวสู่การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดำเนินการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญทุกโหมดการเดินทางในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ให้ดำเนินการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่สำคัญทุกโหมดการเดินทางในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ดังนี้
มิติการพัฒนาทางถนน 1.การพัฒนาโครงข่ายทางหลวง 1.1 โครงการขยายช่องจราจรแยก ทล.208 (ท่าพระ)-มหาสารคาม ดำเนินการแล้วเสร็จ 1.2 โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 ขอนแก่น-บ้านห้วยหินลาด อยู่ระหว่างดำเนินการ 1.3 โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 บ้านห้วยหินลาด-อ.โนนสะอาด คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2566 1.4 โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 229 สาย อ.มัญจาคีรี-แยกช่องสามหมอ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2567
2.การพัฒนาโครงข่ายทางหลวงชนบท 2.1 โครงการสะพานข้ามลำน้ำชี ต.วังแสง อ.ชนบท กับ ต.โพธิ์ไชย อ.โคกโพธิ์ไชย จ.ขอนแก่น เปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 2.2 โครงการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำชี ต.พระบุ อ.พระยืน กับ ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ผลการก่อสร้าง 96.92% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2565 2.3 โครงการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำชี ต.โนนพะยอม อ.ชนบท อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ผลการก่อสร้าง 43.72% 2.4 โครงการก่อสร้างถนนสาย ขก.4020 แยก ทล.2440-บ้านนาเชือก (ตอนขอนแก่น) อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ได้รับงบประมาณก่อสร้างปี 2566 และ 2.5 โครงการก่อสร้างถนนสาย ขก.4008 แยก ทล.2062-บ้านเหล่านาดี อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
3.แผนแม่บทการพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค MR-MAP เป็นโครงข่ายคมนาคมที่ประกอบไปด้วยถนนมอเตอร์เวย์และทางรถไฟพัฒนาอยู่ในพื้นที่บริเวณเดียวกัน เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางในพื้นที่ภาคใต้ กับภาคอื่นของประเทศไทยให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ส่งเสริมการขนส่งสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยแผนการดำเนินการ ได้แก่ ปี 2564 แผนแม่บทโครงข่าย MR-MAP ได้ศึกษาแล้วเสร็จ และคณะกรรมการจัดการจราจรทางบก (คจร.) ได้เห็นชอบแล้ว ปี 2565 หน่วยงานที่รับผิดชอบได้แก่ กรมทางหลวง และการรถไฟแห่งประเทศไทยจะได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบในรายโครงการต่อไป โดยมีเส้นทางที่ผ่านพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ MR2 : กรุงเทพฯ/ชลบุรี (แหลมฉบัง)-หนองคาย (ด่านหนองคาย) และ MR4 : ตาก (ด่านแม่สอด)-นครพนม (ด่านนครพนม)
4.การเชื่อมโยงการขนส่งสาธารณะ การเชื่อมโยงระบบคมนาคมจากสถานีขนส่งผู้โดยสารไปยังสถานที่ต่างๆ ใน จ.ขอนแก่น และระหว่างจังหวัด ได้แก่ การเชื่อมโยงระบบการขนส่งสาธารณะในจังหวัดขอนแก่น (เส้นทางสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดขอนแก่น แห่งที่ 3-สถานีรถไฟจังหวัดขอนแก่น-ท่าอากาศยานขอนแก่น) การเชื่อมโยงระบบการขนส่งสาธารณะ (รถโดยสารต่างประเทศ) เส้นทางขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทน์ (ปัจจุบันงดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากบริษัทคู่สัญญา สปป.ลาว ยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ) รวมทั้งการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการประชาชน เช่น ระบบ DLT Smart Queue แอปพลิเคชั่นสำหรับการรับคิว ดูคิว จองคิว และประชาสัมพันธ์ ระบบ DLT QR Llicence สำหรับตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตขับรถแบบ QR Code และระบบ DLT Vehicle Tax แอพพลิเคชั่นชำระภาษีรถประจำปี เป็นต้น
มิติทางราง มีแผนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กิโลเมตร ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 3 เส้นทาง ได้แก่ 1) เส้นทางชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย 2) เส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ และ 3) เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น (ผ่านจังหวัดขอนแก่น) ระยะที่ 2 ได้แก่ 1) ทางรถไฟสายใหม่ (2560-2564) บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม (ผ่านจังหวัดขอนแก่น) อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2) ทางคู่ ระยะที่ 2 (2565-2569) ขอนแก่น-หนองคาย (ผ่านจังหวัดขอนแก่น) อยู่ระหว่างเสนอ ครม. 3) ทางรถไฟสายใหม่ระยะถัดไปนครสวรรค์-บ้านไผ่ มีแผนของบปี 2567 เพื่อออกแบบรายละเอียด และจัดทำ EIA แผนพัฒนารถไฟฟ้าความเร็วสูงทั่งประเทศ โดยเส้นทางที่ผ่านจังหวัดขอนแก่น ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ไทย-จีน ช่วงที่ 2 นครราชสีมา-หนองคาย สถานะปัจจุบันออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างการพิจารณารายงาน EIA
มิติทางน้ำ มีการพัฒนาทางน้ำในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้แก่ การพัฒนาปรับปรุงเขื่อนป้องกันตลิ่งพังแม่น้ำพอง บริเวณบึงเนียม อ.เมือง การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังบริเวณลำน้ำพอง โครงการพัฒนาที่ดินมูลนิธิชัยพัฒนา บ้านเหมือดแอ่ อ.เมือง การพัฒนาและบำรุงรักษาร่องน้ำ โครงการขุดลอกแม่น้ำลำคลอง เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะตลิ่งพัง เพิ่มพื้นที่การระบายน้ำในฤดูน้ำหลาก และกักเก็บน้ำไว้ในการอุปโภค-บริโภค ดำเนินการแล้วเสร็จ 5 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ 4 โครงการ และมีแผนงานในอนาคตอีก 1 โครงการ
มิติทางอากาศ ปัจจุบันท่าอากาศยานขอนแก่นสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 1,500 คน/ชั่วโมง ซึ่งการฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิด-19 มีแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยในเดือนกันยายน 2565 มีจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ย 14 เที่ยวบิน/วัน ผู้โดยสารเฉลี่ย 3,876 คน/วัน คาดการณ์ว่าในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 จะมีจำนวนเที่ยวบิน 1,827 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 473,733 คน เพื่อขยายขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสาร กระทรวงฯ มีโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2566 เมื่อแล้วเสร็จรวมกับอาคารผู้โดยสารแห่งเดิมจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 2,000 คน/ชั่วโมง และโครงการขยายลานจอดเครื่องบิน หากแล้วเสร็จจะสามารถรองรับเครื่องบินขนาด A320/Boeing 737 จากเดิม 5 ลำ เพิ่มเป็น 12 ลำ
ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้การเชื่อมต่อด้านคมนาคมขนส่งทุกโหมดการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถรองรับปริมาณการเดินทางและคมนาคมขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนนำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต่อไป ซึ่งในโอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม พร้อมรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของประชาชน ในพื้นที่อำเภอน้ำพองและอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่นอีกด้วย
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานต่างๆ โดยยึดกฎ ระเบียบ ข้อกฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีอย่างเคร่งครัด ควบคุมดูแลการก่อสร้างโครงการโครงสร้างพื้นฐานให้ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยและเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัดอย่างต่อเนื่องและครบทุกมิติ เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน