ภูมิภาค
สส.นครพนม ขอโทษถ้าไม่จริง ปมตั้งข้อสังเกต CPTPP โยงทุนใหญ่
วันจันทร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 12.16 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 10 พฤษภาคม 2564 “ส.ส.เดือน” นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนมเขต 2 พรรคเพื่อไทย ผู้แทนหญิงหนึ่งเดียวของจังหวัดนครพนม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกรณีมีข่าวตนได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับข้อตกลง CPTPP หรือข้อตกลงเศรษฐกิจฉบับใหม่ ที่รัฐบาลจะมีการพิจารณาเข้าร่วมข้อตกลง ระหว่างประเทศสมาชิกทั้งหมด 11 ประเทศ ตนในฐานะผู้แทนประชาชน และประชาชนคนไทยคนหนึ่ง จึงต้องออกมาแสดงความคิดเห็น เป็นการตั้งข้อสังเกต เป็นความเห็นต่าง มองต่างมุมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นภายหลัง เพราะหัวใจสำคัญของ ข้อตกลง CPTPP สิ่งที่ตนกังวลมากที่สุดคือการเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนในภาคเศรษฐกิจการค้า รวมถึงภาคการเกษตร ที่ประชาชนจะถูกจำกัดสิทธิ์ในเรื่องอาชีพ ปล่อยให้นายทุนเข้ามาดูแล ตนจึงตั้งข้อสังเกตเห็นต่าง ไม่ต้องการให้เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน แต่อยากให้ประชาชนได้ประโยชน์ โดยไม่ได้ปรักปรำผู้หนึ่งผู้ใด หากการคิดต่าง ตั้งข้อสังเกต ไปพาดพิงถึงใคร ถ้าไม่ใช่ความจริงตนขอโทษ ด้วยสปิริตของนักการเมือง แต่เจตนาตนอยากให้รัฐบาล รวมถึงกลุ่มทุนออกมาชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนถึงผลได้ผลเสีย ไม่อยากให้เอาการเมืองมาเกี่ยวข้อง อย่ามองเป็นเรื่องการเมือง
ตนเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านที่ต้องตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล แต่สำคัญที่สุดตนมองถึงผลกระทบที่เกิดกับประชาชนในอนาคต ไม่ได้มองว่าจะมาดิสเครดิต หรือใส่ร้ายใคร เพราะข้อตกลง CPTPP มีการคัดค้านมาตลอด จากหลายภาคส่วน อยากให้รัฐบาลพิจารณาทบทวน รวมถึงเรื่องนี้ประชาชนต้องทำความเข้าใจ สำคัญที่สุดปัญหาปากท้องที่ประชาชนจะได้รับผลกระทบ ไม่ใช่การมาเอาผิดคนที่คิดต่าง คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่สุดท้ายความลำบากตกที่ประชาชน เพราะข้อตกลง CPTPP มันคือระบิดเวลา อนาคตจะทำลายประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการจำกัดสิทธิ์ ด้านการเกษตร แม้แต่เมล็ดพันธุ์พืช อนาคตประชาชนจะไม่สามารถขยายพันธุ์ได้เอง ต้องซื้อจากกกกลุ่มทุน ไม่รวมปัญหาด้านเศรษฐกิจอื่นๆ ที่จะกระทบตามมา ตนในฐานะประชาชนคนไทย ขอให้คนไทยตื่นตัว หันมาศึกษาเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติในอนาคต
ด้าน นายวัชรินทร์ เจียวิริยบุญญา รองประธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตนเห็นข่าวการกล่าวหา ส.ส.หญิง ผู้แทนชาวนครพนม ว่าไปกล่าวหานายทุนแล้วออกมาขอโทษ เนื่องจากบริษัทนายทุนยักษ์ใหญ่ออกแถลงการณ์ไม่เกี่ยวข้อง และจะเอาผิดกล่าวหาว่าสร้างข่าวเท็จ ตนรู้สึกหดหู่ใจ เพราะการแสดงความเห็นต่าง การตั้งข้อสังเกต ข้อตกลง CPTPP เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เป็นสิ่งที่ชาวนครพนมต้องภูมิใจ ในเมื่อเลือกผู้แทนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียง แสดงความคิดเห็นในโครงการที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน กับถูกเอามาสร้างกระแส เป็นการดิสเครดิตทางการเมือง จนมีการออกมาขอโทษ ตนถือว่าไร้สาระ การขอโทษไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สำคัญที่สุดรัฐบาลรวมถึงกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ จะต้องออกมาชี้แจง ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ถึงผลดี ผลเสีย ใครได้ประโยชน์ ใครเสียประโยชน์ ไม่ใช่มาถือโอกาส ดิสเครดิสทางการเมืองของฝ่ายค้าน ไม่ใช่หาทางเอาผิด หรือให้คนที่เป็นผู้แทนออกมาขอโทษ เป็นเรื่องน่าหดหู่ การเห็นต่างตั้งข้อสังเกตเพื่อประโยชน์ของประชาชน มันคือหน้าที่ของผู้แทน ไม่ใช่การสร้างข่าวเท็จ เพราะสิ่งสำคัญประชาชนต้องเข้าใจคำว่า CPTPP คืออะไร และต้องจับตากันอีกต่อไป และใครเกี่ยวข้องไม่เกี่ยวข้อง เพราะการเป็นผู้แทนไม่ว่าจะฝ่ายไหน ทุกคนต้องเอาประชาชน เป็นที่ตั้ง ไม่ใช่เอาแต่พรรคกับพวก ตนในฐานะภาคเอกชนจะขอจับตาต่อไป ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่มีนายทุนระดับเจ้าสัวมาเกี่ยวข้อง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่