พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก สำหรับ “สหายแสง” ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่นอกจากจะมีเรื่องคณะกรรมาธิการจริยธรรมสภาผู้แทนราษฎรตั้งแท่นสอบ กรณีมีผู้ร้องเรียนว่าครอบครองที่ดินป่าดงพะทาย ที่บริเวณ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ที่เจ้าตัวยืนยันว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง
และเพิ่ง ปะ ฉะ ดะ กับทนายคนดัง อย่าง “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด และไฮไซสาว กล่าวหาว่าบุตรสาวและอดีตผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ ได้ลวงเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากนักธุรกิจสาวไฮโซ เพื่อหลอกช่วยเคลียร์คดี ซึ่งเขายืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมฟ้องกลับทนายตั้ม
ล่าสุด งานเข้ารัวๆ เมื่อไปปราศรัยเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่4ธันวาคมที่ผ่านมาว่า พาดพิง พัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กับวลี
“มันโง่จริงหรือแกล้งโง่ ถ้าสกลนครอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ ให้เลือกฝ่ายรัฐบาล เลือกพรรคภูมิใจไทย”
ที่ก็ร่ำๆจะถูกยื่นสอบจริยธรรม ทว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2565 ที่ผ่านมา คู่กรณีได้ขอหารือในที่ประชุมสภาฯ แม้ ชวน หลีกภัย ที่ทำหน้าที่ประธานสภาฯ จะชี้ว่าเป็นเรื่องภายนอกสภาฯ ไม่ให้นำเข้ามาในสภาฯ เพราะจะเสียเวลา ทว่า “สหายแสง” ก็ได้แสดงสปิริต ขอโทษพร้อมพนมมือไหว้
“เมื่อตัวผมพูดออกไปแล้ว พลาดพลั้งไปแล้ว หรือผิดไปแล้ว ผมยอมรับกับประธาน และสมาชิกทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ผมขอกราบขออภัยที่ผมพูดขึ้นมา และขอโทษเพื่อนๆ”
สำหรับ “ศุภชัย” หรือ “สหายแสง” ชื่อที่เขาได้รับการตั้งฉายาระหว่างการเข้าร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีชื่อเล่นว่า “แก้ว” เมื่อพรรคคอมมิวนิสต์ล่มสลาย เขาออกจากป่ามาสอบบรรจุครู จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “ครูแก้ว” คร่ำหวอดในแวดวงการเมือง ได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.นครพนมติดต่อกัน 3 สมัย เมื่อพรรคพลังประชาชนถูกยุบจึงออกมาก่อตั้งพรรคภูมิใจไทยกับ เนวิน ชิดชอบ และได้รับความไว้วางใจเป็นแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ในพรรคภูมิใจไทย
เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อย่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใมสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในการเลือกตั้งปี 62 เขาได้รับเลือกเป็นส.ส.นครพนม และรองประธานสภาฯคนที่ 2