อาชญากรรม
แม่หนุ่มพิการเหยื่อแก๊งทมิฬ วอนตร.เร่งล่าตัวหัวโจกมือมีด
วันพฤหัสบดี ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 10.27 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่หมู่บ้านโคกกุง หมู่ 3 ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม รวมตัวกันประมาณ 4 -5 คน ใช้อาวุธมีดฟันดักรุมทำร้ายร่างกาย นายจีระวัฒน์ ไพรี หรือน้องบูม อายุ 17 ปี ชาวบ้านคำธาตุ หมู่ 8 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม หนุ่มพิการครึ่งซีกจนบาดเจ็บสาหัส ปัจจุบันกำลังเรียนระดับ ปวช.3 วิทยาลัยเทคโนโลยี ไทย-อินโดจีน นครพนม ซึ่งเป็นเด็กกตัญญูถึงแม้พิการร่างกายซีกซ้ายยังดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพส่งตัวเองเรียน ด้วยการขายนมเปรี้ยวบริเวณสี่แยกไฟแดง เพื่อเป็นทุนการศึกษาและช่วยเหลือครอบครัว
โดยวันเกิดเหตุเป็นคืนวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ได้ขับรถจักรยานยนต์พาเพื่อนรุ่นพี่ไปหาแฟนสาวในหมู่บ้านโคกกุง ก่อนถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นดักทำร้ายร่างกายแบบสุดเถื่อน ซึ่งน้องบูมเผยไม่เคยรู้จักและมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นการอวดศักดาของกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ เกิดความคึกคะนองทำให้น้องบูมได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกฟันตามร่างกายหลายจุด ส่วนเพื่อนรุ่นพี่วิ่งหนีทัน ภายหลังชาวบ้านนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ล่าสุดอาการปลอดภัย แพทย์อนุญาตมาพักฟื้นที่บ้านแต่ยังไม่สามารถเดินและช่วยเหลือตัวเองได้ โดยมีนายสุชาติ ก้อนเงิน อายุ 40 ปี พ่อเลี้ยง และ นางรจนา มาตย์แพง อายุ 40 ปี มารดาเป็นผู้ดูแล
ส่วนการดำเนินคดีทางผู้ปกครองของกลุ่มวัยรุ่น 2 ราย คือ นายออฟ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี พร้อมด้วย นายบาส (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ได้เข้ามอบตัวกับ ร.ต.ท.(หญิง)มนัสนันท์ บุรีภักดี รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้แจ้ง 2 ข้อกล่าวหา 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายสาหัสโยใช้อาวุธมีด 2.ทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากหลังทำร้านน้องบูมแล้วคนร้ายยังไปทุบทำลายรถ จยย.ของผู้บาดเจ็บด้วย ส่วนข้อหาพยายามฆ่ายังต้องสอบสวนพิจารณาเพิ่มเติม ส่วนมือมีดคือนายกาย (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกก่อน หากไม่มาตามหมายเรียก 2 ครั้ง จะส่งให้ศาลจังหวัดนครพนมพิจารณาเป็นหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
นางรจนา มาตย์แพง อายุ 40 ปี แม่ของน้องบูม เหยื่อแก๊งมืดมีดเปิดเผยว่า ตนมีลูกชายสองคน น้องบูมเป็นลูกคนโต ส่วนคนสุดท้องอายุ 13 ปี ครอบครัวฐานะไม่ค่อยดี มีอาชีพรับจ้างทั่วไป น้องบูมเป็นเด็กน่าสงสารเพราะเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ ถูกรถชนทำให้พิการซีกซ้ายแขนขาอ่อนแรง แต่ยังขยันไขว่คว้าอยากเรียนหนังสือ พ่อแม่ไม่มีทุนการศึกษาให้แต่พยายามทำงานรับจ้างทุกอย่างขอให้ได้ทุนเรียน ประมาณ 5 -6 เดือนที่ผ่านมาไปรับจ้างขายนมเปรี้ยวตามแยกไฟแดงได้เงินวันละ 200 -300 บาท ก็นำมาเป็นทุนการศึกษา เพราะอนาคตอยากเรียนจบปริญญาตรี และอยากเป็นช่างยนต์ เพื่อจะมีรายได้ในอนาคต ถึงแม้จะพิการยังพยายามดิ้นรนตลอด เพื่อช่วยเหลือครอบครัวแบ่งเบาภาระให้พ่อแม่
ตนยืนยันว่าเลี้ยงลูกมาไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร ไม่เคยทะเลาะกับใคร พื้นฐานเป็นคนอารมณ์ดี ซ้ำร้ายพิการครึ่งซีกไม่เคยคิดว่าจะไปมีเรื่องกับใคร ปกติว่างจากเรียนจะไปรับจ้างทำงานหาเงิน วันเกิดเหตุที่ไปเพราะเพื่อนรุ่นพี่มาขอยืมรถจักรยานยนต์พาไปธุระส่วนตัว แต่ด้วยความหวงรถจักรยานยนต์จึงอาสาขับรถพาไปในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น จนกระทั่งมีคนมาบอกว่าถูกทำร้าย ตกใจมากตอนเห็นสภาพลูกแทบช็อกถูกฟันสุดโหดเหี้ยมทั้งที่ไม่มีทางสู้ โชคดีไม่ถึงตาย มาถึงวันนี้ตนยังรับไม่ได้ “มีกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมทำผิดเข้ามอบตัวแล้ว แต่ยังเหลือคนลงมือฟัน แม้ผู้ปกครองยังไม่มาเหลียวแล อยากให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยแร็ว สำคัญที่สุดคดีนี้คนกระทำต้องถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่า เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก หวังเอาชีวิตแน่นอน ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เชื่อว่าเป็นการอวดศักดา แสดงถึงความคึกคะนอง โชคดีที่ลูกชายสลบคนก่อเหตุคงคิดว่าตายไปแล้ว พยายามร้องขอชีวิตแต่ยังรุมทำร้ายแบบป่าเถื่อน” นางรจนากล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่