“โตโน่” เผยเป็นช่วงฟิตซ้อมอย่างหนักเพื่อว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ซ้อมวันละ 2 ชม. หวังเป็นกระบอกเสียงระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งฝั่งไทย-ลาว ยอมรับคิดถึง “ณิชา” ที่บินไปเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษ บอกคุยกันทุกวัน และตนก็ฝากซื้อแว่นตาว่ายน้ำกลางแจ้งด้วย แอบเขินบอกไม่ติดถ้าจะเรียกว่าแฟน
เตรียมลุยทำกิจกรรมเพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อีกแล้ว สำหรับนักร้อง-พระเอกหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ซึ่งคราวนี้เจ้าตัวเผยในงานแกรนด์ โอเพนนิ่ง เปิดตัว นิว คอลเลกชั่น ภายใต้คอนเซ็ปต์ The Havaianas District Designed for A Free Lift บอกว่าเตรียมว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขง ระยะทางไปกลับ 15 กิโล เชื่อพ่อปู่พญานาคราชคงปกป้องคุ้มครองตนแน่ เพราะตนต้องการหาเงินมาช่วยเหลือพี่น้องทั้งฝั่งไทย-ลาวจริงๆ
“จริงๆ ตอนนี้ขาแข็งแรงแล้ว น่าจะพร้อมแล้ว แต่ในเรื่องของส่วนบนน่าจะยังต้องฝึกอีกเยอะครับ เพราะที่ผ่านมาเราก็ใช้ฟุตบอลช่วยด้วยในเรื่องของหัวใจ แต่วิธีการหายใจมันก็คนละแบบกับการว่ายน้ำระยะไกลครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าละครที่ผมถ่ายอยู่ วิวาห์ฟ้าแล่บ จะปิดกล้องแล้ว ถ้าละครปิดกล้องเมื่อไหร่ผมก็จะลงน้ำ ซ้อมได้จริงๆ จังๆ เพราะตอนนี้ยังลงน้ำกลางแจ้งไม่ได้ เดี๋ยวจะดำมาก มันจะไม่ต่อเนื่องกับละครครับ ก็ต้องซ้อมในสระปกติไปก่อน เฉลี่ยซ้อมวันละ 2 กิโลเมตร เราต้องซ้อมให้หนัก เพราะเวลาว่ายจริงมันมีในเรื่องของกระแสน้ำด้วยครับ แต่เดี๋ยวเราค่อยขยับจากสระว่ายน้ำไปเป็นบึงครับ
ที่หลายคนเป็นห่วง ก็ขอบคุณมากครับทุกคน ขอบคุณที่เป็นห่วง แต่เรื่องสิ่งแวดล้อมสำคัญกว่าครับ เรื่องที่ทำไมเราถึงมาว่ายสำคัญกว่า แม่น้ำโขงอยู่กับเรามานาน ให้ทั้งอาชีพ อาหาร มีประวัติความเป็นมาที่เรารัก เราศรัทธา และผูกพัน ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไทยและฝั่งลาว ถ้าการว่ายครั้งนี้ทำให้คนหันมาช่วยกันดูแล ใส่ใจดูแลแม่น้ำลำคลองกันมากขึ้น ประเทศของเราเป็นประเทศที่มีแม่น้ำหลายสายเลยนะครับ สำคัญมากๆ แล้วลองคิดดูถ้าเราทำให้แม่น้ำทุกสายของบ้านเรามันสวยงาม มันสะอาด เราจะได้ประโยชน์จากตรงนี้อีกมากมายขนาดไหน
แต่ในทางกลับกันถ้าเกิดว่าแม่น้ำลำคลองที่เรามีอยู่มันเน่าเสีย มันพังไปหมด เราจะทิ้งโลกใบนี้ให้กับลูกหลานเราแบบไหน นั่นเป็นคำถามที่การว่ายน้ำครั้งนี้อยากจะให้ทุกคนหันมาสนใจครับ รวมถึงโรงพยาบาลที่เราจะช่วย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งนครพนม หรือท่าแขกของฝั่งลาว โควิดที่ผ่านมา คุณหมอ คุณพยาบาลทำงานอย่างหนักมาก อุปกรณ์การแพทย์ขาดอีกหลายอย่าง
ดังนั้นถ้าการว่ายครั้งนี้แล้วทุกคนพอที่จะเมตตาผม หรือช่วยผม ถือว่ามาดูกีฬาก็ได้ครับกับการว่ายข้ามแม่น้ำโขงครั้งนี้ ระยะทางไป-กลับประมาณ 15 กิโลเมตร และผมก็ไม่เคยว่ายไกลขนาดนี้มาก่อนครับ คงจะเป็นวันที่หนักและเหนื่อยมาก แต่ถ้าเทียบกับสิ่งที่ทุกคนจะได้ทราบ ได้รู้ ว่าแม่น้ำโขงสำคัญกับเรายังไง แม่น้ำลำคลองในบ้านเราสำคัญกับเรายังไง รวมถึงถ้าทุกๆ คนช่วยกันคนละ 1 บาท คนละ 5 บาท คนละ 10 บาท ในการช่วยโรงพยาบาลทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวครั้งนี้ ผมคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลยครับ”
บอกจะเริ่มที่ลายพญานาคจ.นครพนม ไปขึ้นที่ฝั่งลาวแล้วว่ายกลับมาที่เดิม
“คงจะซ้อมไปให้ดีที่สุดครับ ในน้ำบางอย่างมันก็คาดเดาไม่ได้ แต่ผมเชื่อมั่นใจทีมของผม เราไม่ได้คิดจะทำก็ทำเลย ไม่ได้เป็นการว่าเราเก่งหรืออะไรนะครับ ไม่ใช่เลย แต่ผมคิดว่าการให้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ในรูปแบบไหน มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากกับโลกใบนี้ ก็ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ จะเริ่มซ้อมแล้ว วันที่ 22 ต.ค. จะเป็นวันว่ายจริง เริ่มที่ลานพญานาคของฝั่งนครพนม ไปขึ้นที่พระธาตุศรีโคดตะบองของฝั่งลาว และก็ว่ายกลับมาจบที่ลานพญานาคครับ
ว่ายจบในวันเดียวครับ ขาไปไม่เกิน 10 กิโลเมตร ส่วนขากลับประมาณ 5 กิโลเมตร จะพยายามซ้อมให้มันดีที่สุดครับ ถ้ามันจะเป็นการทำให้คนได้รู้จักกับ จ.นครพนมมากขึ้น มาเที่ยวมากขึ้น รวมถึงพ่อแม่พี่น้องฝั่งลาวด้วย ผมคิดว่ามันคงจะดีครับ แม่น้ำมันจะดีขึ้นได้ มันจะสวยงามขึ้นได้ มันไม่ได้จากใครคนใดคนหนึ่ง หรือประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่มันคือการร่วมมือกัน ดังนั้นผมอยากฝากทุกคนด้วยครับ ให้ช่วยกันเชียร์ และรักสิ่งแวดล้อม ดูแลแม่น้ำ ลำคลอง ทะเล ภูเขา เมืองของเรา เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ เพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และลูกหลานของเราครับ”
เชื่อองค์พญานาคจะคุ้มครองตนแน่นอน
“กลัวอุปสรรคอะไรเป็นพิเศษไหมเหรอ ไม่ครับ ตั้งแต่คิดที่จะทำ ผมไม่กลัวเลยว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับผม แต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันถึงหูคนไทย คนลาว ชาวโลกทุกคนให้ได้มากที่สุดครับ ว่าสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่สำคัญนะ ใช่ครับ สงครามตอนนี้ก็ยังมีอยู่ใช่ไหมครับ สภาพเศรษฐกิจต่างๆ แต่สิ่งที่สำคัญมากๆ เลยเป็นอันดับ 1 คือเรื่องของโลกร้อน คือเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ตอนนี้มันแย่ลงไปนะครับ เราต้องช่วยกันครับ
ถามว่าเราเชื่อเรื่องความเชื่อหรือตำนานต่างๆ ของแม่น้ำโขงไหม ผมเชื่อนะครับว่าองค์พ่อพญานาคจะคุ้มครองผม ผมเชื่อว่าสิ่งที่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ พ่อแม่เราไหว้และศรัทธา ผมเชื่อว่าถ้าท่านรับรู้ ท่านคงจะอยากให้แม่น้ำลำคลองสมบูรณ์ครับ นั่นคงเป็นสิ่งที่ท่านอยากจะให้มันเกิด ในความคิดของผมนะครับ แต่ผมเตรียมใจไว้แล้วครับ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ยินดีครับ”
บอกพี่น้องทั้งไทย-ลาวสามารถร่วมบริจาคกันได้
“ฝากถึงทุกๆ คนด้วยนะ ตอนนี้เรายังไม่ได้เปิดรับบริจาคครับ เราจะเปิดรับบริจาคในวันที่ 1 ต.ค. นะครับ จนไปถึงวันว่ายจริง วันที่ 22 ต.ค. ถ้าไม่ลำบากจนเกินไปก็ขอฝากพ่อแม่พี่น้องทุกๆ คนนะครับ คนละ 1 บาท 5 บาท 10 บาท สามารถติดตามที่อินสตาแกรมของผมไปก่อนได้ครับ จะอัปเดตให้ฟังเรื่อยๆ ว่าซ้อมไปถึงไหนแล้ว เดี๋ยวต้นเดือน ก.ย. ต้องไปลงพื้นที่จริงเผื่อไปดูโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลท่าแขกของฝั่งลาวด้วย รวมถึงติดต่อประสานงานว่าจุดไหนที่มันอันตราย ตรงไหนที่เป็นน้ำเชี่ยว น้ำดูด น้ำวน ก็จะพยายามทำการบ้านให้ได้มากที่สุดในตรงนั้น และจะคอยอัปเดตอีกทีครับ
พ่อแม่พี่น้องชาวลาว ก็สามารถมาช่วยกันได้ครับ จริงๆ แล้วเราต้องรักกันครับ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน พวกเรามาแบ่งกันเอง ว่านี่เรียกว่าลาว เรียกว่าไทย เรียกว่าอเมริกา แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน อยู่ในโลกใบนี้ เป็นไปไม่ได้เลย ถ้าโลกมันแย่แล้วฝั่งใดฝั่งหนึ่งมันจะอยู่ดี เราใช้ทรัพยากรร่วมกันหมด ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ ดังนั้นสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดนะครับ สำคัญมากว่าเรื่องอื่นๆ”
เผยคิดถึง “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ที่ไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษแล้ว
“(เขิน) ครับ ก็คิดถึงนะครับ และดีใจกับน้องด้วย ที่น้องได้ไปทำตามความฝัน ได้ไปเจอกับสิ่งแวดล้อม ประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อเอามาเติมเต็มกับงานของตัวเองด้วย เขาได้ไปฝึกภาษา ได้ไปทำในสิ่งที่เขารัก ผมก็ดีใจมากๆ ผมก็ไม่ใช่ไม่อยากให้ไปครับ ผมอยากให้ไป แต่ถามว่าคิดถึงไหมก็คิดถึง แต่น้องมีความฝันของน้องครับ ผมเองก็มีสิ่งที่ต้องโฟกัสที่ผมต้องทำ ดังนั้นอะไรที่น้องมีความสุข อะไรที่มันจะเติมความสดใสให้กับเขา เติมประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับเขา ผมยินดีที่จะสนับสนุนครับ
ก็คุยกัน แต่ไม่จำเป็นต้อง 24 ชั่วโมง เอาเป็นว่าคิดถึงกันตอนไหนก็โทร.มา แต่ก็ไม่ได้โทรบ่อยครับ เพราะเราก็ต้องทำงาน เอาเป็นว่าเวลาที่น้องว่างเราว่างก็คุยกันครับ แต่เวลาก็ไม่ค่อยตรงกัน เราก็จะรู้ครับ ว่าอ๋อ เวลานี้น้องเรียน เวลานี้เราทำงานก็จะรู้กันครับ ก็จะบอกกันก่อน (น้องก็โพสต์บ่นคิดถึงเหมือนกัน) ครับ (ยิ้ม) ก็ผมน่ารักไงครับ ก็เป็นธรรมดาที่เขาจะคิดถึงผม เพราะผมน่ารักครับ (หัวเราะ)”
ยอมรับความรักสดใส ถ้าว่างก็เตรียมตัวจะไปรับที่สนามบิน
“อีก 2 สัปดาห์ครับ ก็นับวันรอครับ เพราะฝากเขาซื้อแว่นตาว่ายน้ำครับ (ยิ้ม) จริงๆ คือมันมีแว่นตาว่ายน้ำอันหนึ่ง ที่เอาไว้สำหรับว่ายกลางแจ้ง ที่จะทำเราเห็นทัศนวิสัยดีขึ้น แล้วเรารู้สึกว่าอันตรายอาจจะมาจากไม้หรืออะไรแบบนี้ ผมเลยคิดว่าตัวนี้น่าจะช่วยผมได้ แล้วน้องอยู่อังกฤษพอดี ก็เลยบอกให้ณิชาช่วยหาแว่นตาอันนี้ให้พี่หน่อย ขอ 2 อัน เขาก็บอกว่าจะไปหาดูให้ครับ แต่ตอนนี้ยังไม่เจอครับ (อาจจะเห็นณิชาลงน้ำไปด้วย?) ไม่ครับ ให้เขาอยู่บนบกดีแล้วครับ อันตรายครับ
วันไปรับจะหวานกว่าวันไปส่งไหมเหรอ ถ้าวันนั้นว่างไม่มีธุระ ก็อยากไปรับครับ ความรักก็สดใสขึ้นเรื่อยๆ ครับ จริงๆ แล้วก็ต้องขอบคุณณิชาครับ เพราะถ้าเราไม่เข้าใจกัน เราคงไม่มีแรงไปทำเพื่อคนอื่นครับ ต้องขอบคุณณิชาที่เข้าใจและก็เสียสละด้วยนะ เราไม่ค่อยมีเวลาพาเขาไปไหนมาไหน ไม่ได้พาไปเที่ยวเลย เราก็ทำหลายอย่าง และยังต้องมาซ้อมว่ายน้ำอีก ก็ต้องขอบคุณมาก ได้ยินว่ามี ณิชา มีน้องแนท มีนักแสดงอีกหลายคนที่จะไปช่วยรำถวายองค์พ่อพญานาคในวันนั้น ผมคิดว่ามันจะเป็นภาพที่สวยงาม ก็อยากเชิญชวนชาวนครพนม ชาวไทยทุกคนไปให้กำลังใจกันเยอะๆ ครับ”
ไม่ติดถ้าจะเรียกว่าแฟน
“ไม่ได้นับเลยครับ มันไม่ได้เริ่มมาจากการจีบกัน มันค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ ครั้งนี้ก็ค่อนข้างแปลก มันไม่เหมือนที่ผ่านมาที่ผมเคยมีแฟน ของณิชาผมค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เรียกว่าแฟนกันได้หรือยังเหรอ มันไม่สำคัญหรอกครับ แต่ถ้ามันสำคัญกับณิชาเมื่อไหร่ ผมยินดีเป็นอะไรก็ได้ครับ (ณิชาบอกว่าถ้าเรียกแฟนก็ไม่ติด) ผมก็ไม่ติดครับ ผมเชื่อว่ากระแสน้ำจะช่วยทำให้เราผ่านไปได้ ผมเชื่อว่าผมมีความตั้งใจดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองผม ดังนั้นผมไม่ติดอะไรทั้งนั้น ผมพร้อมที่จะว่ายผมพร้อมที่จะลงไปทำในสิ่งที่เราตั้งใจ (ยิ้ม) ผมไม่เคยสัมภาษณ์เหนื่อยขนาดนี้มาก่อนเลย (หัวเราะ) ผมพร้อมที่จะรักทุกอย่างอยู่แล้ว อยากให้โลกมันดี อยากให้โลกสวยงาม และณิชาก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้โลกใบนี้สวยงามครับ (ยิ้มเขิน)”