ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ได้ มีผู้เสียหายถูกสวมสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการรัฐบาล คือ นายนิคม อุ่มอาสา อายุ 60 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ธรรมรัตน์ มะลาศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า จ.นครพนม เพื่อดำเนินคดีหาคนผิด กรณีมีการตรวจสอบพบถูกสวมสิทธิ์ มีคนนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามโครงการรัฐบาลไปใช้จ่าย ตั้งแต่ปี 2560 โดยไม่รู้ตัว
กระทั่งมีการลงทะเบียน เราชนะ จึงพบว่า มีการใช้สิทธิ์ในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จึงได้ไปตรวจสอบ เอกสารหลักฐาน ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สาขา อ.นาหว้า จุดรับขึ้นทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ พบยืนยัน มีบุคคลสวมสิทธิ์ นำบัตรไปใช้จ่ายจริง จึงได้ ออกมาร้องทุกข์เจ้าหน้าที่ภาครัฐ เพื่อดูแลให้การช่วยเหลือ เพราะทำให้เสียสิทธิ์ และถูกสวมสิทธิ์ นำบัตรไปใช้จ่ายมานานเกือบ 4 ปี
ทางตำรวจได้ ทำการสอบสวน รวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อตรวจสอบ ติดตามหาคนที่สวมสิทธิ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมประสานทางธนาคารเกี่ยวข้อง คือ ธนาคารกรุงไทย เจ้าของบัตร และธนาคาร ธกส. ทำการตรวจสอบ อายัดบัตร และตรวจสอบ เส้นทางการนำบัตรไปใช้สวมสิทธิ เบื้องต้นตรวจสอบสันนิษฐานว่าเป็นคนใกล้ตัวนำเอกสารไปสวมสิทธิ์ และมีการใช้จ่ายตามร้านค้าในพื้นที่ ซึ่งจะเร่งสืบสวนติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายนิคม อุ่มอาสา อายุ 60 ปี เล่าว่า รู้สึกเสียใจมาก ไม่ได้ใช้สิทธิ์ตามโครงการ และยังต้องมาเสียสิทธิ์โครงการเราชนะอีก ทั้งที่ตนมีรายได้น้อย ปกติมีอาชีพทำงานรับจ้างร้านปะยางได้วันละไม่กี่ 100 บาท แทนที่จะได้รับเงินมาจุนเจือดูแลครอบครัว แต่ต้องมาเสียสิทธิ์ทั้ง 2 โครงการ และเกรงว่า คนสวมสิทธิ์ จะนำไปกระทำการสวมสิทธิ์ด้านอื่นต่อ จึงต้องออกมาเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ดูแลช่วยเหลือเร่งด่วน
นายจักรพงษ์ โลหะ ผู้จัดการธนาคาร ธกส.สาขา อ.นาหว้า ภายหลังมีชาวบ้านผู้เสียหาย เข้ามาขอความช่วยเหลือให้ตรวจสอบการใช้สิทธิ์ สวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจาก ธนาคาร ธกส. เป็นคนรับขึ้นทะเบียน ตั้งแต่ปี 2560 โดยตรวจสอบพบว่า ข้อมูลของผู้เสียหาย มีการขึ้นทะเบียนจริง และได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเรียบร้อย แต่ทางธนาคารไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำไปใช้งาน ซึ่งภายหลังเกิดปัญหาจะได้ รวบรวมเอกสารประสานกับ ทางธนาคารกรุงไทย เจ้าของบัตร ทำการอายัดบัตร ยกเลิกบัตรเดิม และออกบัตรใหม่ ให้กับเจ้าของตัวจริง ส่วนการตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อว่า น่าจะเป็นคนในพื้นที่ หรือบุคคลใกล้ตัว นำไปใช้สิทธิ์ เพราะมีการนำไปใช้จ่ายตามร้านในโครงการ มาตลอดในพื้นที่ อ.นาหว้า
ซึ่งจะได้ประสานทางตำรวจตรวจสอบ ดำเนินคดีในการสวมสิทธิ์ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา จะได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลตามขั้นตอน ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ให้มีการตรวจสอบ โดยละเอียด ในการเข้าร่วมโครงการ หรือใช้สิทธิ์ต่างๆ ป้องกันการสวมสิทธิ์ ของกลุ่มมิจฉาชีพ และผู้ไม่หวังดี ฉวยโอกาสสวมสิทธิ์ของชาวบ้าน.