คลังจังหวัดนครพนมประสานตำรวจ ทหาร ลุยตรวจค้นจับกุมร้านธงฟ้า โครงการบัตรประชารัฐ ฉวยโอกาสรับแลกขึ้นเงินสดเราชนะ หักหัวคิว 10% พบหลักฐานกระทำผิดอื้อ โทษสูงสุดทั้งจำทั้งปรับ!
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นางสุธิษา จารุเมธาวิทย์ คลังจังหวัดนครพนม ได้ประสานงานร่วมกับ พ.ต.อ.จตุรงค์ มหิทธิโชติ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่คลังจังหวัดนครพนม พาณิชย์จังหวัดนครพนม รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง นำหลักฐานหมายศาลจังหวัดนครพนม ที่ ค.163/2564 เข้าตรวจค้นร้านค้าแห่งหนึ่งชื่อ ร้านวงษ์พาณิชย์ เลขที่ 49/1 บ้านนาแค หมู่ 8 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ทราบชื่อเจ้าของร้านคือ นางคำจันทร์ คำเงิน อายุ 61 ปี ซึ่งเป็นร้านค้าที่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการธงฟ้า รับแลกซื้อสินค้า บัตรประชารัฐ และโครงการเราชนะ ที่รัฐบาลออกมาตรการมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่มีเบาะแสว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย โดยฉวยโอกาสรับแลกขึ้นเงินสดจากประชาชนที่ได้รับสิทธิ พร้อมหักหัวคิว เป็นเงินสดแทนการแลกซื้อสินค้า เป็นเงินร้อยละ 10 ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายตามมาตรการของรัฐบาล จึงระดมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบเอกสารหลักฐาน กระทำความผิด มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของประชาชนที่นำมาใช้สิทธิ 393 ใบ
นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบของกลางสมุดคุมบัญชีซื้อสินค้าของลูกค้า 3 เล่ม สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม และเครื่องรูดบัตร (EDC) 1 เครื่อง พร้อมตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดในการแลกเงินสดให้ลูกค้าแทนการจำหน่ายสินค้า จึงตรวจสอบเก็บหลักฐานบันทึกจับกุมตามกฎหมาย เบื้องต้นได้มีคำสั่งปลดป้ายร้านธงฟ้าราคาประหยัดเพื่อเพิกถอนสิทธิการเข้าร่วมโครงการ และจะได้รวบรวมหลักฐานสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเอาผิดทางกฎหมายต่อไป
สำหรับโทษของผู้กระทำผิดในส่วนของผู้ที่รับซื้อสิทธิและผู้ที่ขายสิทธิ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะทำการตัดสิทธิการเข้าร่วมโครงการพร้อมยกเลิกการใช้แอพพลิเคชั่น ติดแบล๊กลิสต์ และริบเงินคืน รวมถึงมีการสอบสวนพิจารณาเอาผิดความผิดฐานฉ้อโกง และหากตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำผิดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ อาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านธงฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบโดยเคร่งครัด และห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคา รวมถึงแลกจ่ายเป็นเงินสดแทนการซื้อของ เพราะหากพบกระทำผิดจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายทันที โดยร้านค้าที่ฝ่าฝืนกระทำผิด จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากประชาชนพบร้านค้าที่ฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า หรือไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า หรือกระทำในลักษณะดังกล่าวสามารถแจ้งมาที่สำนักงานคลังจังหวัดนครพนม หรือโทรไปที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569
